Hot Stories
Home   /   Hot Stories  /   ธีระศักดิ์ ขนานใต้ นักธุรกิจแถวหน้าอันดามัน

ธีระศักดิ์ ขนานใต้

นักธุรกิจแถวหน้าอันดามัน

สู่ ภูพิมาน : อ้อมกอดแห่งขุนเขา


                 สำนักข่าวอะลามี่ :  ธีระศักดิ์ ขนานใต้ หรือ กำนันหราบ แห่งอ่าวนาง จังหวัดกระบี่ ผู้สร้างตำนานธุรกิจที่เริ่มชีวิตจากศูนย์ สู่เจ้าของธุรกิจโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว มูลค่าหลายร้อยล้านบาท และยังมีธุรกิจภาคบริการด้านท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง

                 กว่า 30 ปีที่คลุกคลีอยู่ในวงการท่องเที่ยวและภาคบริการจังหวัดกระบี่  “ ธีระศักดิ์ ขนานใต้ ” มีธุรกิจโรงแรม 3 แห่ง คือ โรงแรมเพรสซิเด้นท์, ดรีมวัลเล่ย์รีสอร์ท และ ภูพิมาน รีสอร์ท แอนด์สปา โรงแรมระดับ 5 ดาว ของอ่าวนาง

                 นอกจากนี้ยังร่วมหุ้นทำธุรกิจโรงแรมอีกแห่ง คือ โรงแรมอันดามันตา และธุรกิจภาคบริการการท่องเที่ยว เดินเรือทะเล รับส่งนักท่องเที่ยว บริษัท อ่าวนางเทลเวล โดยมีเรือสปีดโบ้ท และ เรือเฟอร์รี่ บริการนักท่องเที่ยวเชื่อมระหว่างภูเก็ต – อ่าวนาง เกาะลันตา และ อ่าวนาง-เกาะพีพี


ภูพิมาน
: อ้อมกอดแห่งขุนเขา

               ธีระศักดิ์ ขนานใต้ กล่าวถึง การดำเนินธุรกิจว่า โรงแรมภูพิมานเป็นโรงแรมที่ฮาลาล 100 % คือ ทุกอย่างต้องฮาลาลหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พัก อาหาร และพนักงานต้องเป็นพนักงานที่เป็นมุสลิม มีการปฏิบัติศาสนกิจอย่างครบถ้วนในชีวิตประจำวัน

              “ ทุกเวลาละหมาด เรามีห้องรองรับ และมีคนทำหน้าที่เป็นผู้นำละหมาด (อิหม่ามให้เรียบร้อย) สำหรับแขกที่มาพักก็มั่นใจได้ว่าเราฮาลาลทุกอย่าง ”

               โรงแรมภูพิมาน รีสอร์ท  แอนด์ สปา เราให้บริการในระดับอินเตอร์เนชัลแนล ซึ่งมีลูกค้าที่มาใช้บริการหลากหลาย ทุกเชื้อชาติ ศาสนา สำหรับนักท่องเที่ยวที่ย่างก้าวแรกสู่โรงแรม จะพบกับพนักงานที่ให้การต้อนรับแบบมีมิตรไมตรีและรอยยิ้ม ไม่ว่าตำแหน่งไหน แผนกใด  เราอบรมพนักงานในการให้บริการลูกค้าเป็นอย่างดี และมั่นใจว่าจะประทับใจเมื่ออยู่บริเวณโรงแรมของเรา

              สำหรับโรงแรมภูพิมาน มีห้องพัก 2 เฟส บนพื้นที่ 6 ไร่ 3 งาน เฟสแรกจำนวน 23 ห้อง ราคาตั้งแต่ 4,000 – 6,000 บาท นอกจากนี้ยังมีอาคารวิลล่า 2 แบบ ทั้งแบบหนึ่งห้องนอน และสองห้องนอน ซึ่งภูพิมานเฟสแรกเปิดให้บริการ ตั้งแต่ปี 2553 สำหรับเฟสสองมีจำนวน 53 ห้อง รวมทั้งหมด 76 ห้อง

              จุดเด่นของภูพิมานเฟสสอง สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์อ่าวนาง ส่วนอีกด้านจะเห็นตัวเมืองกระบี่ หากท่านได้มาสัมผัส รับรองว่าจะต้องประทับใจ เพราะจะเห็นวิวทิวทัศน์ 180 องศา เมื่อได้มาสัมผัสที่นี่ ท่านจะต้องหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูป ก่อนที่จะเดินเข้าไปห้องพัก หรือเดินขึ้นไปรับประทานอาหารอย่างแน่นอน

              สำหรับไฮไลท์อีกอย่าง นอกจากลูกค้าจะประทับใจกับการให้บริการแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับรูปแบบการจัดสวน เราใช้พื้นที่สำหรับการจัดสวนสวย มีต้นไม้เขียวชอุ่มร่มรื่นท่ามกลางแมกไม้ เมื่อเดินออกจากห้องพัก เปิดประตูลิฟท์ ก็จะเห็นวิวและทิวทัศน์ของอ่าวนาง มั่นใจได้ว่า ที่นี่มีที่เดียวในอ่าวนาง ที่ท่านสามารถสัมผัสความเป็นธรรมชาติได้อย่างอิ่มเอม

             สำหรับเฟสสอง เริ่มเปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.59 เป็นต้นมา ถึงวันนี้ลูกค้าภาพรวม มี 70-80 % ส่วนเฟสสอง รูปแบบของห้องพัก มี 2 รูปแบบ มีห้องสูท ราคาประมาณ 3 หมื่นบาท/คืน และห้องสูทราคา 25,000 บาท ห้องดีลักซ์ ราคา 11,000 บาท ในส่วนของห้องอาหารอยู่ที่ชั้น 3 ของอาคารโรงแรม (เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ได้ 180 องศา)

            นอกจากนี้โรงแรมภูพิมานได้เพิ่มความสะดวกสบายหรือต้องการผ่อนคลาย สำหรับผู้ที่ต้องการนวดสปา ที่นี่เรามีห้องนวด VIP ในการดูแลท่านเป็นอย่างดี มีห้องอบไอน้ำ มีห้องซาวน่า มีห้องฟิตเนสไว้บริการ และ ห้องคิดส์คลับ รองรับกิจกรรมของเด็กๆ เรามีสระน้ำถึง 2 สระใหญ่ ทั้งในเฟสแรก และสระน้ำด้านบนของเฟสสอง มีความยาวถึง 50 เมตร

              เมื่อขึ้นจากสระน้ำ จะเห็นภาพวิว 180 องศา ที่มีความประทับใจ มองเห็นภูเขา 3 สี ที่มีการเปลี่ยนแปลงแต่ละช่วงเวลาที่แตกต่างกัน หลายหลากสีสัน สวยงามตามธรรมชาติ ซึ่งมาที่นี่ ท่านจะสามารถสัมผัสได้อย่างใกล้ชิดกับวิวและทิวทัศน์ เรากล้ารับรอง

               ธีระศักดิ์ บอกว่า หลายคนอาจมองว่าการทำธุรกิจโรงแรมแบบฮาลาลครบวงจร อาจมีผลกระทบกับลูกค้า แต่ผมกลับมองว่า นั่นคือมุมมองไม่ได้ถูกเสมอไป เพราะตรงกันข้ามที่โรงแรมภูพิมานเรามีลูกค้าที่หลากหลาย

แม้ลูกค้าที่พักที่นี่ จะรู้ว่า “ที่นี่จะไม่มีเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์” แต่คนกลุ่มนี้ก็พอใจที่จะมาพัก ไม่ว่าจะเป็นมุสลิมหรือผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม ท่านที่พักที่นี่ก็จะพักอย่างสบายใจ

            “  ภูพิมานอ้อมกอดแห่งขุนเขา ตามคอนเซ็ปต์ของเรา คำกล่าวนี้ไม่ไกลเกินความจริง  จึงอยากให้ท่านได้มาสัมผัสกับบรรยากาศของอ่าวนาง ในภูมิทัศน์อีกมิติหนึ่งที่คุณต้องพึงพอใจ ”

             สำหรับมุมชาของโรงแรม เราจะจัดพื้นที่นั่งจิบชาชมวิวทิวทัศน์ นั่งจิบอย่างสบายใจ ซึ่งเราจะแยกส่วนจากห้องอาหาร  เราจะนำชาชั้นเลิศ และชาชั้นดีจากทั่วทุกมุมโลกมาอยู่ที่นี่ ถ้าท่านสนใจจิบชาจากทุกมุมโลก ในกระบี่ จะต้องมาที่ภูพิมานที่นี่ที่เดียว

             ที่นี่ภูพิมานของเรา ยังมีทางเลือกสำหรับรองรับลูกค้า “ จิบชา บรรยากาศแบบชิลๆ ” ด้วยการบริการชารสชาติที่หลากหลาย ที่ชั้นบนสุดของตัวอาคาร เรียกได้ว่าจิบชาชมวิวทิวทัศน์ของอ่าวนาง “ท่ามกลางบรรยากาศอ้อมกอดแห่งขุนเขาที่แท้จริง”  ซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่นี่


สู่บทบาท ”กำนันหราบ” แห่งอ่าวนาง

           ธีระศักดิ์ ขนานใต้ หรือ กำนันหราบ ณ วันนี้ไม่เพียงแต่ธุรกิจส่วนตัวที่ต้องบริหาร แต่เขายังมีอีกหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายและไว้วางใจ ในตำแหน่งกำนันตำบลอ่าวนาง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเป็นพิเศษ เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อ “เปรียบเสมือนระเบียงอันดามัน เป็นปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก”

             ธีระศักดิ์ บอกว่า ในส่วนตำแหน่งกำนัน ที่มีหน้าที่และความรับผิดชอบเป็นตัวแทนของ ทุกกระทรวง โดยกำนันจะต้องทำหน้าที่นี้ตามมอบหมาย และดูแลลูกบ้านอย่างเต็มที่ ซึ่งจะต้องรับรู้ รับทราบ ทั้งนี้นับตั้งแต่เริ่มรับตำแหน่งวันนี้ครบ 1 ปีกว่า สิ่งไหนที่ดีอยู่แล้ว เราก็จะประสานต่อให้ดียิ่งขึ้น แต่ส่วนไหนที่ยังไม่มีความเป็นระเบียบ เราก็จะต้องเข้าไปดูแล และจัดให้มีความเป็นระเบียบมากขึ้น

             ทั้งนี้ภาพลักษณ์ของอ่าวนาง ในมิติของการท่องเที่ยว ในฐานะประธานชมรมผู้ประกอบการท่องเที่ยวอ่าวนาง(อีกตำแหน่ง) บอกว่า ตำบลอ่าวนาง เป็นพื้นที่ที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากที่สุดของจังหวัดกระบี่ ครอบคลุมพื้นที่ หาดอ่าวนาง หาดนพรัตน์ธารา หาดอ่าวไร่เลย์ ส่วนในพื้นที่ทะเล ประกอบด้วยในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ของตำบลอ่าวนาง และมากไปกว่านั้นในพื้นที่ หมู่ 7 และหมู่ 8 คือหมู่เกาะพีพี ถือว่าเป็นเกาะมีชื่อเสียงระดับโลก

             นอกจากนี้ อีกความโดดเด่น และมีความพิเศษกว่าจังหวัดอื่นๆ คือ บริเวณหาดอ่าวนาง จะไม่มีร่มชายหาด เรือสปีดโบ้ท หรือ บาน่าน่าโบ้ท  เพราะเราต้องการอนุรักษ์และต้องการขายความเป็นธรรมชาติ ความสวยงาม รวมถึงความเป็นระเบียบ ให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยว หรือมาพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างสบายใจ

           ทั้งนี้บริเวณหน้าหาดที่มีความยาวประมาณ 1,000 เมตร เราจะกันเป็นแนวเขตไว้สำหรับนักท่องเที่ยวได้เล่นน้ำ ห้ามเรือเข้าชายฝั่งโดยเด็ดขาด ทั้งนี้เราคำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และได้เล่นน้ำที่ชายหาดอย่างมีความสุข

          สำหรับเรื่องการจัดระเบียบบนฟุตบาทถนนคนเดิน ในอดีตนักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินได้ มีโต๊ะเก้าอี้และซุ้มต่างๆ หรือสิ่งที่กีดขวางบนทางเท้าอยู่นั้น “เราได้จัดให้เป็นระเบียบ ซึ่งปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถเดินผ่านไปมาได้อย่างสะดวก”  ในฐานะผู้ปกครองท้องถิ่นได้ประสานงานกับแขวงการทางกระบี่ จัดระเบียบบนทางเท้าให้เรียบร้อย


ฮาลาลสตรีท
อีกไฮไลท์ท่องเที่ยวอ่าวนาง

            ธีระศักดิ์ กล่าวว่า ตำบลอ่าวนาง มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ในอดีตพูดได้เต็มปากว่าที่นี่เป็นชุมชนมุสลิมเกือบ 100%  แต่ในระยะเวลา 20-30 ปีที่ผ่านมา หลังจากความเจริญเข้ามา มีคนมากมายที่เข้ามาทำมาหากิน เข้ามาทำธุรกิจ ปัจจุบันมีมุสลิมดั้งเดิมไม่เกิน 40% แต่ถึงอย่างไร ณ วันนี้ มุสลิมที่นี่ก็ยังมีความเหนียวแน่นกันเหมือนเดิม ไม่ว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร มุสลิมที่นี่ก็ยังมีความเคร่งครัดในศาสนากันดังเดิม

“            เรามีมัสยิดอ่าวนางที่สวยงาม ที่เป็นสัญลักษณ์และยังคงเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งให้กับนักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือน ”


             ทั้งนี้เพื่อรองรับการท่องเที่ยวในรูปแบบเชิงฮาลาล และเป็นการเพิ่มช่องทางให้เศรษฐกิจชุมชน เราเตรียมเปิด “โครงการฮาลาลสตรีท” บริเวณหน้ามัสยิดอ่าวนาง โดยเราจะจัดร้านค้าไว้ทั้งสองฝั่งถนน มีความยาวประมาณ 300 เมตร ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จะมีทั้งอาหาร ของฝาก และของที่ระลึกต่างๆ

            “ สำหรับแม่ค้า-พ่อค้า เราจะเปิดโอกาสให้กับคนท้องถิ่นเป็นหลักก่อน แต่หากคนท้องถิ่นไม่พร้อม เราก็จะรับคนนอกสามารถเข้ามาขายได้ สำหรับคนต่างศาสนิกก็สามารถมาจับจองพื้นที่ในการจำหน่ายสินค้าประเภทอื่นๆ ได้ แต่สำหรับเรื่องอาหารเราเน้นความเป็นฮาลาล 100 % ซึ่งต้องเป็นมุสลิมเท่านั้น ”

ธีระศักดิ์ กล่าวด้วยความมั่นใจว่า “ถนนฮาลาลอ่าวนาง จะเป็นอีกแหล่งช้อบปิ้ง และจะเป็นอีกสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวอยากจะมาสัมผัส”

             “ สำหรับอ่าวนาง ภาพรวมเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เราจะต้องคิดต่อว่า จะทำอย่างไรที่จะทำให้แหล่งท่องเที่ยวของอ่าวนาง ไม่มีสภาพที่ทรุดโทรม ทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวมาแล้วสบายใจ ในเรื่องความปลอดภัย อีกทั้งยังประทับใจ มาแล้วก็ยังอยากกลับมาเที่ยวอีก ดั่งสโลแกนของจังหวัดที่ว่า “กระบี่ต้องมาครั้งเดียวไม่เคยพอ

              บนเส้นทางธุรกิจกว่า  30 ปี ของ “ ธีระศักดิ์ ขนานใต้ ” วันนี้ธุรกิจต่างๆ ก้าวเดินอย่างมั่นคง และกำลังส่งไม้ต่อให้ทายาทธุรกิจ โดยมีลูกสาวมาช่วยดูแล แม้ธุรกิจจะรัดตัว แต่เขายังคงมีความสุขกับการได้ดูแลลูกบ้าน ในฐานะกำนันแห่งอ่าวนาง  ซึ่งคืออีกหมวกชีวิตของเขา

ตีพิมพ์ครั้งแรก:นิตยสารดิ อะลามี่ ฉบับมกราคม 2560