Hot Stories
Home   /   Hot Stories  /   'เอ็มเค'บูมบ้านและคอนโด คาดทำกำไรทะลุ 3 พันล้าน

 เอ็มเคบูมบ้านและคอนโด คาดทำกำไรทะลุ 3 พันล้าน

           สำนักข่าวอะลามี่ : เอ็มเค เปิดกลยุทธ์ลุยอสังหาฯ ปีมังกรทอง เดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่อีก 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 2 พันล้านบาท ควบคู่ 17 โครงการในมือ มูลค่ารวมกว่า 4,000 ล้านบาท หวังฟันยอดขาย 3 พันล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 40% เน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องด้วยรูปแบบที่หลากหลายและชูจุดเด่นประโยชน์ใช้สอยของพื้นที่

 

          นายชวน ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัทมั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน)หรือ MK  ผู้พัฒนาโครงการ “ชวนชื่น” และ “สิรีนเฮ้าส์” ได้กล่าวถึงแนวโน้มและปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2555 นี้ว่า ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่สร้างความผันผวนทางเศรษฐกิจ ที่จะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อันได้แก่ ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจยุโรปและสหรัฐ ซึ่งส่งผลต่อการส่งออกและการเติบโตของ GDP. รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่มีเสถียรภาพ ต่อเนื่องไปถึงเรื่องของปัญหาภัยธรรมชาติที่ทุกฝ่ายต่างต้องช่วยกันหาทางป้องกันเพื่อไม่ให้เหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นซ้ำรอยเดิม

          ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมถึงต้นทุนวัสดุที่อาจเพิ่มสูงขึ้นจากการปรับค่าแรงงาน แผนการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่ล่าช้าออกไป และเงื่อนไขผังเมืองใหม่ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการลงทุนพัฒนาอาคารชุด อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีปัจจัยเสี่ยงอยู่มาก แต่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในหลายๆ ด้านก็ยังส่งสัญญาณในทางบวกต่อธุรกิจที่อยู่อาศัย วิเคราะห์จากการคาดการณ์เติบโตทางเศรษฐกิจจากการบริโภคภายในประเทศ การแข่งขันการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ แนวโน้มการปรับลดหรือทรงตัวของอัตราดอกเบี้ย และการเลื่อนการบังคับใช้เกณฑ์การให้สินเชื่อวงเงินกู้ต่อหลักประกัน (LTV) ของบ้านจัดสรรออกไปในปี 2556

          "สำหรับในปีนี้ เอ็มเคได้เตรียมเดินหน้าอย่างมุ่งมั่นสานต่อความสำเร็จ โดยตั้งเป้าในการพัฒนาโครงการใหม่ อีก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการชวนชื่นโมดัส รัตนาธิเบศร์ มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท, โครงการชวนชื่นจรัญฯ 3 มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท และในช่วงปลายปี 2555 กำหนดเปิดโครงการทาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศในย่านวิภาวดี มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท รวมมูลค่า 3 โครงการรวม 1,900 ล้านบาท พร้อมด้วยอีก 17 โครงการที่ดำเนินงานอยู่ในปัจจุบันบนทำเลศักยภาพที่มีมูลค่าคงเหลือขายรวมกว่า 4,000 ล้านบาท  โดยในปีนี้ได้ตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายกว่า 40% โดยมีเป้ายอดขายอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นปีที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยในช่วงไตรมาสสุดท้าย " นายชวน กล่าว

           ส่วนกลยุทธ์ในการดำเนินงานนั้น ด้านการตลาดเอ็มเคยังคงมุ่มเน้นการใช้ Social Network Marketing เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มช่องทางการสื่อสารทางการตลาด การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมต่าง ๆ ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น  พร้อมทั้งการจัดโปรโมชั่นใหม่ๆ ให้กับลูกค้าตลอดปี อาทิโปรโมชั่นล่าสุดต้อนรับปีมังกรทอง ได้แก่ ชวนชื่นสไมล์ แพคเกจ” (Smile Package)

            ในด้านการดำเนินงานนั้น นายชวนระบุว่า จะมุ่งเน้นในเรื่องของความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับความต้องการได้ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งจะมีทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด คอนโดมิเนียม ทาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศ และเน้นสัดส่วนของบ้านพร้อมอยู่มากขึ้น พร้อมทั้งมาตรการและแนวทางในการป้องกันภัยพิบัติน้ำท่วม ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสรรหาทำเลที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ การยกระดับที่ดินให้สูงพ้นระดับน้ำท่วม รวมถึงการจัดเตรียมและพัฒนาเรื่องระบบระบายน้ำ เป็นต้น ควบคู่ไปกับคุณภาพในด้านการก่อสร้างในทุกๆ ขั้นตอน  รวมทั้งการชูจุดเด่นในเรื่องของการออกแบบที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่

           อาทิ บ้านแบบโมเดิร์นไทยสไตล์, แบบแคลิฟอร์เนีย คลาสสิค แบบโมเดิร์น ทรอปิคอล และทาวน์โฮมแบบโมเดิร์น วินเทจ  พร้อมทั้งยังคงรักษาจุดเด่นในเรื่องของพื้นที่ใช้สอยของบ้านในแต่ละมุมที่คุ้มค่า คุ้มราคาทุกตารางเมตร ยืนยันจากลูกค้าที่ตัดสินใจจองซื้อบ้านโดยตัดสินใจเลือกซื้อจากแบบบ้านเป็นปัจจัยสำคัญรองจากทำเลและราคา

           “ด้านการเงินเอ็มเคยังคงรักษาความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน ซึ่งในปีนี้คาดการณ์รายได้เติบโตขึ้นกว่าเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา ด้วยผลจากการรับรู้รายได้จากคอนโดมิเนียม พร้อมการทำกำไรในอัตราส่วนกำไรเบื้องต้น (Gross Profit Margin) กว่า 40% ซึ่งสูงเป็นอันดับต้นๆ ของธุรกิจที่อยู่อาศัย และยังคงสถานะอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนในระดับต่ำกว่า 0.5 เท่ามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นด้วยศักยภาพในด้านการเงินที่กล่าวมา จึงมีความพร้อมในการขยายตัวรองรับภาวะตลาดและความผันผวนของเศรษฐกิจในปีนี้ได้อย่างแน่นอน” นายชวน กล่าว