Hot Stories
Home   /   Hot Stories  /    ชาวบ้านร้องถูกทหารรุมซ้อม-ทรมาน ให้สารภาพว่าเป็นโจร

 ชาวบ้านร้องทหาร"ซ้อม-ทรมาน"ให้สารภาพเป็นโจร

              สำนักข่าวอะลามี่ : ชาวบ้านในพื้นที่พงยือติ อ.รือเสาะ นราธิวาส ร้องสื่อถูกทหารรุมซ้อม"เตะ-ต่อย-ถุงยางรัดหัว-กดน้ำ"สาระพัดทรมานให้รับสารภาพเป็นแนวร่วม วอนแม่ทัพภาค 4 สางอย่าให้เป็นมวยล้ม

         

     สำนักข่าวอะลามี่ ได้รับการร้องเรียน จาก นายซุลกิฟรี ซิกะ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 บ้านพงยือติ ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 55 เวลา 11.30 น. ถูกเจ้าหน้าที่ทหารแต่งชุดนอกเครื่องแบบสีดำไว้ผมยาว จำนวน 8-10 คน ทำการตรวจค้นบ้านพัก ในขณะที่ตนกำลังเดินสายไฟฟ้าภายในบ้านพัก และได้ควบคุมตัวด้วยการจับกดศีรษะลงพื้น จนศีรษะแตกพร้อมทั้งใส่กุญแจมือ ก่อนจะนำตัวไปทำการสอบสวนที่ฐานปฏิบัติการณ์ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 30 ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดสวนธรรม อ.รือเสาะ

             โดยในระหว่างสอบสวนอยู่ภายในศาลา ได้ถูกเจ้าหน้าที่ทหารรุมซ้อมด้วยการชกต่อยและใช้เท้าเตะตน เพื่อให้รับสารภาพว่า เป็นแนวร่วมสมาชิกโจรก่อการร้าย แต่ตนได้ปฏิเสธเนื่องจากไม่เป็นดังคำที่ถูกเจ้าหน้าที่กล่าวหา

              ในวันเดียวกันนี้เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้นำตนกลับมาที่บ้านพัก ให้ทำการชี้จุดต่างๆภายในบ้าน พร้อมนำตัวกลับไปยังฐานปฏิบัติการณ์ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 30 อีกครั้ง พร้อมทั้งให้เซ็นชื่อลงในกระดาษแผ่นหนึ่ง ที่เขียนรายละเอียดต่างๆ และหลังจากตนเซ็นต์ลงในแผ่นกระดาษดังกล่าวแล้ว เจ้าหน้าที่นายหนึ่งบอกกับตนว่าถูกจับแล้ว

              ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. ของวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้นำตนไปทำการสอบสวนอีกครั้ง ที่กองบังคับการกรมทหารพรานที่ 46 ซึ่งตั้งอยู่พื้นที่รับผิดชอบของ สภ.ตันหยง อ.เมืองนราธิวาส และเจ้าหน้าที่ทหาร ได้ทำการซ้อมตนอีกครั้ง เพื่อให้รับสารภาพว่าเป็นสมาชิกแนวร่วมโจรก่อการร้าย ด้วยการให้ถอดเสื้อผ้าออกแล้วรุมกันชกต่อยและเตะด้วยเท้า จนตนสลบเพราะทนความเจ็บปวดไม่ไหวก่อนที่จะปลุกตนมาสอบสวน

         " เป็นอยู่อย่างนี้ตลอด 7 วันที่ถูกควบคุมตัว ที่หนักที่สุดช่วงอยู่ที่กองบังคับการกรมทหารพรานที่ 46 คือ เจ้าหน้าที่ทหารจะใช้ถุงพลาสติกและกระสอบใส่ปุ๋ยสีขาวครอบศีรษะตน เพื่อทรมานให้ขาดอากาศหายใจควบคู่กับการเตะชก รวมทั้งใช้มือบีบลูกอัณฑะ เพื่อให้ตนรับสารภาพให้ได้ ซึ่งตนบอกและย้ำไปว่าไม่ได้เป็นสมาชิกแนวร่วมแต่อย่างใด ทำไมถึงทำกับตนเช่นนี้มันไม่ถูกนะ"  นายซุลกิฟรีกลาว

             จนกระทั่งวันที่ 16 ก.พ. 55 เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำตนส่งค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนอีกครั้ง ซึ่งตนอยู่ที่นี้เป็นเวลา 3 วัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้พยายามสอบสวนว่า ตนเป็นสมาชิกแนวร่วมโจรก่อการร้ายจริงหรือไม่ ซึ่งตนก็ได้บอกไปเหมือนทุกๆครั้งว่า เป็นชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ มีอาชีพกรีดยางพารา ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับปัญหาความไม่สงบเหมือนกับที่เจ้าหน้าที่ทหารจะพยายามยัดเยียดข้อหาให้กับตน

              ต่อมาก่อนที่ตนจะเป็นอิสระถูกเจ้าหน้าที่ส่งตัวไปยังฐานปฏิบัติการณ์ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 37 ซึ่งตั้งอยู่ อ.ศรีสาคร ในวันที่ 18 ก.พ. 55 ก่อนที่ตนจะถูกส่งตัวไปยังศูนย์ปฏิบัติการตำรวจส่วนหน้า จ.ยะลา เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 55 ตนได้ให้ปากคำกับ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ที่ปรึกษาด้านสืบสวนคดีอาญา ถึงรายละเอียดทั้งหมด ว่า ตนถูกเจ้าหน้าที่ทหารซ้อมในทุกขั้นตอนอย่างไร ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกรายละเอียดทั้งหมดเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน และตนถูกส่งฟ้องศาล จ.นราธิวาส และศาลได้พิจารณาว่า ตนไม่มีความผิดและได้ปล่อยตัว

                  นายซุลกิฟรีกลาวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 14 ก.พ. 55 ในระหว่างที่ตนถูกควบคุมตัวสอบสวนอยู่ที่กองบังคับการกรมทหารพรานที่ 46 ทางบิดาและมารดาของตน รู้ว่าตนถูกเจ้าหน้าที่ทหารซ้อม จึงได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ตันหยง ซึ่งเป็นพื้นที่จุดเกิดเหตุ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความ โดยเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดตนจึงวอนให้ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัช แม่ทัพภาค 4 ช่วยดูแลและกำชับเจ้าหน้าที่อย่าให้มีพฤติกรรมดังกล่าว

              " มันไม่ถูกต้องที่จะยัดเยียดให้ชาวบ้านเป็นโจร และให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะปัจจุบันนี้ตนยังไม่สามารถที่จะประกอบอาชีพกรีดยางพาราได้ดั่งเดิม เนื่องจากยังเจ็บปวดจากอาการถูกเจ้าหน้าที่ทหารรุมซ้อม แถมไม่กล้าที่จะเดินทางไปไหนมาไหน เนื่องจากกลัวว่าจะถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายไหนจับตัวไปซ้อมอีก "  นายซุลกิฟรีกลาวและว่า

                เรือ่งดังกล่าวตนได้ทำเรื่องร้องเรียนไปยังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติแล้ว แต่อยากย้ำให้ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัช แม่ทัพภาค 4 ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และอย่าได้ปกป้องคนผิดต้องนำตัวมาลงโทษให้ได้เพราะชาวบ้านไม่มีที่พึ่ง

                สำหรับเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังกองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ซึ่งตั้งอยู่ อ.เมืองนราธิวาสเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจาก พล.ต.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผบ.ฉก.นราธิวาส แต่ พล.ต.กัมปนาท ติดราชการ และได้พบกับ พ.อ.กัณฑ์ชัย ประจวบอารีย์ เสธ.ฉก.นราธิวาสกับ พ.อ.ทรงพล สาดเสาเงิน รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส ซึ่งได้รับคำตอบว่า เรื่องดังกล่าวทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ส่งเรื่องทั้งหมดไปยัง พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัช แม่ทัพภาค 4 แล้ว และแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว

ขอบคุณภาพจาก สทท.