The Alami Report
Home   /   The Alami Report  /   อีกมุมหนึ่งของ"ฮิซบุลลอฮ์"กับข้อหาก่อการร้ายในไทย

อีกมุมหนึ่งของฮิซบุลลอฮ์ ต่อกรณีถูกกล่าวหาการก่อการร้ายในไทย

โดย: อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ ( อับดุลสุโก ดินอะ )

         สำนักข่าวอะลามี่ : กรณีมีกระแสข่าวจะเกิดเหตุก่อการร้ายในประเทศไทยโดยการแจ้งเตือนจาก สถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทย  นั้นได้สร้างความไม่พอใจต่อรัฐบาลไทยเป็นอย่างมากเพราะสร้างภาพลักษณ์ในแง่ลบต่อประเทศไทย และทำให้อีกกว่าสิบประเทศออกมาเตือนคนของตนเอง ให้งดเดินทางสู่ประเทศไทยหากเป็นไปได้

            โฆษกสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ระบุว่า การออกคำเตือนในระดับนี้จะเกิดขึ้นเมื่อได้รับรายงานความเป็นไปได้ที่แน่ชัดว่าอาจจะเกิดการโจมตีที่เป็นภัยคุกคามต่อคนอเมริกัน และ ยืนยันว่าได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงานความมั่นคงของไทยทุกหน่วยงานอยู่แล้ว โดยระบุได้แต่เพียงว่ากลุ่มก่อการร้ายต่างชาติอาจจะโจมตีในอนาคตอันใกล้

             ในขณะที่ ทางการไทยก็ได้จับกุมผู้ต้องสงสัย ชาวเลบานอนสัญชาติสวีเดนสองคน ว่าเป็นสมาชิก พรรคฮิซบุลลอฮ์ ซึ่งท้ายสุดก็จะต้องปล่อยตัวเพราะไม่มีหลักฐานยืนยันว่าจะก่อการร้ายจริงถึงแม้ตำรวจไทยได้ออกแถลงการณ์ว่าทั้งสองรับสารภาพว่าเตรียมก่อเหตุจริง ซึ่งเท็จจริงแค่ไหนก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่บุคคลทั้งสองรวมทั้งประเทศเลบานอนเสียหายในสายตาคนไทยไปแล้ว

            สำหรับผู้ต้องสงสัย ชาวเลบานอนสัญชาติสวีเดนสองคน ดังกล่าวได้ถูกกล่าวหาจากตำรวจไทยว่าเป็นสมาชิก พรรคฮิซบุลลอฮ์ ทั้งๆ ในเว็ปไซด์พรรคฮิซบุลลอฮ์ ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธกระแสข่าวการเข้ามาก่อการร้ายในประเทศไทย 

            อีกทั้งได้อธิบายแนวคิดของการจัดตั้งพรรคฮิซบุลลอฮ์อย่างชัดเจนว่ามีแนวคิดการต่อสู้กับรัฐอิสราเอล ที่เข้ามารุกรานคนของตนและยึดครองแผ่นดินเลบานอนเท่านั้นในขณะเดียวกันฮิซบุลลอฮ์ ยังเป็นองค์กรการกุศลที่จะช่วยพัฒนาสังคมในด้านต่างๆไม่ว่าสังคม  เศรษฐกิจ  การศึกษา การแพทย์ คนอยากจนในเลบานอนไปพร้อมกันด้วย

            ซัยยิดหะซัน นัศรุลลอฮ์ เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์แห่งเลบานอน ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่มีผู้กล่าวหาว่าฮิซบุลลอฮ์เป็นกลุ่มก่อการร้ายอีกทั้งยืนยันจะปกป้องขบวนการและเกียรติยศของฮิซบุลลอฮ์ และจะปกปักษ์รักษาเลบานอนจากปัญหาความขัดแย้งโดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างชีอะฮ์และซุนนะฮ์ การรุกราน และแผนการต่างๆ ไม่ว่าจะมาในรูปแบบใดจากศัตรูรัฐบาลอิสราเอลและพันธมิตร การดำเนินการต่อสู้ด้วยอาวุธกับผู้รุกราน หรือที่ตะวันตกเรียกว่าการก่อการร้าย พร้อมทั้งปกป้องแผ่นดินเลบานอนอันล้ำค่านี้ที่ได้กอบกู้มาด้วยเลือดเนื้อจากการยึดครองของอิสราเอล และจะยังคงดำรงอยู่ในความพร้อมที่จะพลีชีพ เพื่อการดำรงอยู่ของแผ่นดินเลบานอน

            เป็นที่น่าสังเกตว่าการประโคมข่าวการก่อการร้ายในไทยเป็นห่วงเวลาที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกากำลังถูกโจมตี 2 เรื่องใหญ่ด้วยกันคือ การลอบสังหารนักวิทยาศาสตร์นิว เคลียของอิหร่าน และ ทหารสหรัฐอเมริกา ปัสสาวะรดศพของนักรบตอลิบัน ในอัฟกานิสถาน ซึ่งสร้างความไม่พอใจต่อชาวมุสลิมในอิหร่าน อัฟกานิสถาน และกำลังจะลุกลามทั่วโลก

         กรณีที่หนึ่ง รัฐบาลอิหร่าน ได้เปิดเผยว่า มีหลักฐานชัดเจนว่า กรุงวอชิงตัน อยู่เบื้องหลังการสังหารนักวิทยาศาสตร์ในโครงการนิวเคลียร์ของตนโดย เมื่อวันพุธ ที่ผ่านมา (11 ม.ค.) คนร้ายใช้ระเบิดคลื่นแม่เหล็กทำลายรถยนต์ของ มุสฏอฟา อะหมาดี-รอสฮาน นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญระบบแยกก๊าซวัย 32 ปี จนเป็นเหตุให้เจ้าของรถเสียชีวิตพร้อมกับคนขับ ซึ่งนับเป็นเหตุลอบสังหารนักวิทยาศาสตร์อิหร่าน รายที่ 5 ในระยะเวลาเพียง 2 ปี

          มัสอูด จาซายีรี โฆษกกองบัญชาการสูงสุดอิหร่าน กล่าวว่า “ ศัตรูของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งอเมริกา อังกฤษ และ รัฐบาลไซออนิสต์ (อิสราเอล) ต้องรับผิดชอบการกระทำของพวกเขา”
       
           ที่ผ่านมา อิหร่าน เคยกล่าวหาอิสราเอลว่า อยู่เบื้องหลังความเสียหายหลายครั้งที่เกิดขึ้นกับโครงการนิวเคลียร์ของตน ซึ่งแม้เจ้าหน้าที่อิสราเอลจะหลีกเลี่ยงไม่แสดงความคิดเห็นว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่บางครั้งก็แสดงความพึงพอใจที่เห็นอิหร่านล้มเหลว
       
           ขณะที่ สถานีโทรทัศน์แห่งชาติอิหร่าน ระบุด้วยว่า จดหมายประณามยังถูกส่งถึงรัฐบาลอังกฤษ โดยชี้ว่าการลอบสังหารนักวิทยาศาสตร์เกิดขึ้นหลังจากที่หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับ MI6 แถลงปฏิบัติการด้านข่าวกรองเพื่อโจมตีประเทศใดๆ ก็ตามที่ลอบพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
       
            ประเด็นที่สองคือการที่ทหารสหรัฐฯ ปัสสาวะรดศพ ของนักรบตอลิบันในอัฟกานิสถานซึ่งข่าวนี้ ถูกเผยแผ่หลังจาก เว็บไซต์ไลฟ์ ลีก และ สื่ออื่นๆ มีการเผยแพร่ภาพวีดิโอ ปรากฎชายสวมเครื่องแบบทหารสหรัฐฯ 4 คน ปัสสาวะรดเข้าที่ศพของนักรบตอลิบัน ในอัฟกานิสถาน ซึ่งภายหลังที่เผยแพร่ออกไป ก็มีปฏิกิริยามากมายจากองค์กรต่างๆของโลกมุสลิมโดยเฉพาะ อัลอัซฮัร ประเทศอียิปต์ ซึ่งเป็นองค์กรศาสนา ที่มีอิทธิพลต่อประชาชาติมุสลิมทั่วโลก

           ชัยค์ อะหมัด  ฏ๊อยยิบ ผู้นำอัลอัซฮัร ได้มอบหมายให้ที่ปรึกษาของท่านสัมภาษณ์ถึงแถลงการณ์ของอัลอัซฮัรผ่านสื่อรอยเตอร์ ประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำ อันป่าเถื่อนและผิดหลักมนุษยชนของทหารสหรัฐฯ 4 คน ดังกล่าวซึ่งปัสสาวะรดเข้าที่ศพของนักรบตอลิบันในอัฟกานิสถาน

           นอกจากนี้ สภาเพื่อความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกาและอิสลาม (CAIR) ซึ่งเป็นองค์กรส่งเสริมสิทธิพลเมืองมุสลิมในสหรัฐฯ ก็ประณามพฤติกรรมดังกล่าวว่า เป็นการดูหมิ่นผู้เสียชีวิตในครั้งนี้

           ครับ การระมัดระวังเกี่ยวกับการก่อการร้ายในไทยเป็นสิ่งที่ดี ควรสนับสนุนแต่ถ้าหากประเทศไทยถูกแสวงหาผลประโยชน์โดยผูกโยงกับความขัดแย้งการเมืองโลกก็เป็นเรื่องที่น่าสงสารสำหรับรัฐบาลไทยและชาวไทย 

           ในขณะเดียวกันผู้เขียนขอประณามผู้ต้องสงสัยทั้งสองรวมทั้งฮิซบุลลอฮ์ หากทั้งสองและพรรคฮิซบุลลอฮ์ จะใช้ไทยเป็นฐานจัดการศัตรู


             ที่สำคัญผู้บริสุทธิที่ถูกกล่าวหา ว่า เป็นกลุ่มก่อการร้าย หากโดนกับลูกหลานของเราก็จะเป็นตราบาปตลอดชีพ

            ซึ่งแต่ละคนที่ต่อสู้เพื่อทวงคืนความยุติธรรมไม่ว่า เสื้อแดง  เสื้อเหลือง หรือชายแดนใต้ คงทราบความเจ็บปวดนี้ดี เพราะทุกคนไม่ว่าชาติใด เชื้อชาติไหน เขาก็คือมนุษย์ ซึ่งมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน


             มาร่วมรณรงค์แสวงหาความยุติธรรมต่อทุกคน เพราะอัลลอฮ์ ได้โองการไว้ความว่า ".... และท่านจงให้ความยุติธรรมแก่พวกเขา แท้จริงอัลลอฮ์ทรงรักผู้ที่มีความยุติธรรม.”  ( อัลมุมตะหะนะฮฺ : 8 )
      

หมายเหตุ

             ฮิซบุลลอฮ์ เป็น คำภาษาอาหรับ สะกดอย่างนี้แหละตามคำอ่าน ซึ่งแปลว่าพรรคของอัลลอฮ์ เป็นองค์กรของชาวมุสลิมชีอ๊ะห์ ในเลบานอน  ก่อตั้งในปีคศ 1982 อันเป็นปีที่อิสราเอลรุกรานเลบานอน โดยมีจุดประสงค์เพื่อขับไล่กองทัพอิสราเอลที่ยึดครองเลบานอน จนสามารถต่อสู้และขับไล่ทัพอิสราเอลปี คศ 2000 มีเลขาธิการใหญ่ของพรรคฮิซบุลลอฮ์คือ ซัยยิด ฮะซันนัสรุลลอฮ์ เป็นผู้นำสูงสุด  

 
ที่มา:   http://arabic.arabia.msn.com/news/middleeast/reuters/2012/january/12001433

ศึกษาความสำคัญของอัลอัซฮัรของผู้เขียนเพิ่มเติมได้ที่http://www.thaingo.org/writer/view.php?id=1572