The Alami Report
Home   /   The Alami Report  /   มองอาเซียนถึงไทย

มองอาเซียนถึงไทย

โดย บันฑิตย์ สะมะอุน

              สำนักข่าวอะลามี่ : ประชากรโลกที่ขยับขึ้นถึงเจ็ดพันล้านคนในปัจจุบัน และเฉพาะหกร้อยล้านคนในอาเซียนที่กำลังแข่งขันกันสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวโลก ได้เห็นถึงความมั่นคงทางการเมืองและทางเศรษฐกิจภายในประเทศของตน ทั้งสิบประเทศในอาเซียนต้องการเปิดตัวและพร้อมรับกับความสัมพันธ์อันแตกต่างหลากหลาย ประเทศที่เห็นเด่นในอาเซียนอย่างเช่น บรูไน มาเลเซีย อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีความพร้อมมาก่อน

                เมื่อมองไปถึงพม่า เวียดนาม ลาว ภาพที่เห็นในปัจจุบันคือทั้งหกประเทศนี้กำลังเปลี่ยนแปลงไปยังที่ต่างไปจากอดีต ปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศต่างๆในกลุ่มอาเซียนกลับมาตกอยู่กับไทยที่ยังเต็มไปด้วยความขัดแย้งและความรุนแรงที่ไม่จบสิ้น

               การลทุนโครงสร้างใหญ่ๆไปตกอยู่ในประเทศอื่นๆที่ไม่ใช่ไทยซึ่งเคยเป็นตัวแรกต้นๆเหมือนในอดีตที่ผ่านมา นักลงทุนต่างประเทศจะหาประเทศเพื่อที่จะเข้ามาลงทุนกับประเทศที่มีความมั่นคงและมีความปลอดภัย นักท่องเที่ยวก็จะตัดสินใจเดินทางไปยังประเทศที่มีความมั่นคงและปลอดภัย ภูมิภาคในกลุ่มอาเซียนทั้งสิบประเทศมีสิ่งดึงดูดผู้คนได้ทั่วโลก ในสถานการณ์ปัจจุบันไทยยังไม่ได้รับประโยชน์มากมายในการอยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน

                การเข้าไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งในอาเซียนมีความจำเป็นอย่างยิ่ง แต่การต้านรับกระแสอาเซียนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน หมายถึงการต้านรับทุกด้านที่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งหากมองไทยกับมาเลเซียในปัจจุบันแล้ว ความจริงได้ประจักษ์ชัดเจนแล้วว่า อันดับของไทยเป็นรองมาเลเซีย จุดต่างระหว่างไทยกับมาเลเซีย คือ เรื่องของวินัยคน ระเบียบในตัวคน คุณธรรมในใจคน และ เรื่องทุจริตคอรัปชั่น เป็นเรื่างที่ต้องทำไปพร้อมกัน ผู้นำที่ไม่คอรัปชั่น ผู้ตามมีระเบียบวินัย มีจิตสำนึกต่อสิทธิต่างๆทั้งของส่วนตัวและของส่วนรวม(จิตสาธารณะ)  และในอนาคตสองเรื่องนี้อาจจะเป็นตัวแปรสำคัญต่อความมั่นคงของแต่ละประเทศ

               จุดเด่นหรือจุดแข็งของประเทศในกลุ่มอาเซียน คือ เรื่องการลงทุนจากต่างประเทศ การท่องเที่ยวและบริการ เรื่องอาหาร ธรรมชาติ ซึ่งแต่ละประเทศในกลุ่มอาเซียนก็ดำเนินนโยบายดังกล่าวมาโดยตลอด แต่ที่แตกต่างกันคือ การเลือกสรรกลุ่มนักลงทุน เลือกสรรกลุ่มนักท่องเที่ยวและเลือกสรรในเรื่องของการให้บริการ เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้นำในแต่ละประเทศต้องมองถึงประเทศชาติเป็นหลัก

             ในอดีตอาเซียนกลัวว่าพม่าจะเป็นตัวถ่วงไม่ให้อาเซียนเดินไปข้างหน้าด้วยกับปัญหาความมั่นคงในประเทศพม่า แต่สุดท้ายแล้วพม่ากลับปล่อย นางออง ซาน ซูจี ให้เป็นตัวชูเรื่องประชาธิปไตย เพื่อลดความหวาดระแวงในเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษชนในพม่า จะเป็นความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม

               การที่ นางอองซาน ซูจี ได้เดินสายไปสร้างสัมพันธ์กับประเทศต่างๆในกลุ่มอาเซียนกลับกลายเป็นภาพที่ทำให้พม่ามีภาพพจน์ที่ดีขึ้นและเป็นที่หมายตาของประชาคมโลก แต่สำหรับประเทศไทย กลับเดินถอยหลังและกลับไปยังความขัดแย้งและความรุนแรงที่ไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อใด ไทยอาจกลายเป็นคนป่วยในกลุ่มอาเซียนก็เป็นได้ เพราะเพื่อนบ้านเขาเลิกรบกันแล้ว แต่ไทยยังเมามันกันอยู่กับการแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ แคบๆที่ไม่เป็นผลดีใดๆกับชาติเลย

              ทางออกที่สำคัญคือการแก้ปัญหาด้วยการศึกษา การศึกษาต้องพยายามหลีกออกจากการเมืองให้มากที่สุด

              การศึกษาสามารถเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาความรุนแรงและความแตกแยกที่รากฐานของสังคม การเมืองที่เข้าไปมีบทบาทต่อความคิดทางการศึกษา มีแนวโน้มที่จะสร้างความขัดแย้งที่ยาวนาน และเป็นการสร้างทัศนะคติแห่งความขัดแย้งและความเป็นศัตรูกันที่ได้รับอิทธิพลจากแนวคิดทางการเมืองให้ฝังอยู่ในหัวใจและจิตสำนึกของเยาวชน ที่ได้รับจากโรงเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงระดับอุดมศึกษา การจัดการศึกษาให้แก่เยาวชนจึงจำเป็นต้องหลีกห่างจากแนวคิดทางการเมืองให้ชัดเจน

               หากแนวคิดแบบการเมืองยังฝังแน่นอยู่ในระบบการศึกษา การจะสร้างความเป็นเอกภาพและการอยู่ร่วมกันของคนในชาติ จะเป็นเรื่องที่ยากมากหากไม่ได้เริ่มต้นที่การศึกษาที่ดีมีคุณภาพ ให้การศึกษาเป็นตัวขับเคลื่อนจิตสำนึกของเยาวชนให้มีความรักต่อประเทศชาติ ให้การศึกษาเป็นเครื่องมือในการขจัดความขัดแย้ง/ความรุนแรงของสังคม ให้การศึกษาเป็นตัวขับเคลื่อนการอยู่ร่วมกันของผู้คนในสังคมด้วยความเคารพในสิทธิเสรีภาพของกันและกัน

               นี่เป็นจุดเน้นสำคัญที่การศึกษาของชาติต้องสร้างขึ้นให้แก่คนในชาติ ส่วนเรื่องเศรษฐกิจ/การลงทุน/การท่องเที่ยว ล้วนเป็นผลพลอยได้จากการสร้างคนในชาติด้วยการศึกษาที่ดีมีคุณภาพ เพราะการศึกษาเป็นเครื่องมือในการสร้างจิตสำนึกของคนในชาติได้ดีกว่าด้านอื่น การศึกษาเป็นพื้นฐานของชีวิตและเป็นจุดขายของประเทศที่มีความมั่นคง และผลของความมั่นคงของชาติขึ้นอยู่กับการจัดการศึกษาของชาติ

              ความเจริญของประเทศชาติขึ้นอยู่กับคุณภาพของคน และคุณภาพของคนก็ต้องดูกันที่การศึกษาของชาติว่า จะทำให้คนรักชาติและรักคนในชาติได้มากน้อยเพียงใด ในสังคมไทยในปัจจุบันเราได้เห็นแล้วว่าการศึกษาของชาติไม่ได้สร้างองค์ประกอบเหล่านี้ขึ้นมาให้คนในชาติ ผลของความขัดแย้งและความรุนแรงที่เกิดขึ้นในวันนี้ของไทย ได้ให้ข้อคิด/บทเรียน

               อะไรบ้างกับผู้นำรัฐบาลและผู้นำทางการศึกษาไทย ก่อนที่คิดจะพูดเรื่องการเปิดประชาคมอาเซียนของไทย ต้องเริ่มจากการขจัดความขัดแย้ง/ความรุนแรงภายในชาติเป็นเบื้องต้นก่อน

                มีคำถามหนึ่งที่น่าคิดว่าทำไมไทยถึงต้องประคองความขัดแย้ง/ความรุนแรงให้คงอยู่ต่อไป มีใครได้ประโยชน์จากความขัดแย้งของไทยหรือไม่ คนได้ประโยชน์นั้นคงมองไม่สามารถมองเห็นชัดเจนในวันนี้

                 แต่คนที่เสียประโยชน์แน่ๆคือคนไทยและชาติไทยที่ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง เมื่อความขัดแย้งภายในชาติครั้งนี้ยุติลง

........................