Food & Healhty
Home   /   Food & Healhty  /    ตะโหมด “ LAND OF HONEY”

 ตะโหมด “ LAND OF HONEY” ผึ้งโพรงไทย เบอร์1 ของไทย

โดย อัสวิน  ภัคฆวรรณ

          สำนักข่าวสอะลามี่ :  “ ผึ้งโพรงไทย” พัทลุง ธุรกิจเสริมชาวบ้าน สร้างชื่อให้จังหวัด สู่การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ " ตะโหมด ดินแดนแห่งน้ำผึ้งหรือ  LAND OF HONNEY  "


            นายบุญพาศ รักนุ้ย  นายอำเภอตะโหมด จ.พัทลุง กล่าวในโอกาสเป็นเปิดโครงการเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ ตะโหมด ดินแดนแห่งน้ำผึ้งหรือ LAND OF HONNEY " ที่ผ่านมา ให้กับสมาชิกตามโครงการ ขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  ระดับอำเภอกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงไทย  3 ตำบล จำนวน 250 คน  เพื่อนำไปประกอบอาชีพเสริมสร้างรายได้ เนื่องจากน้ำผึ้งโพรงไทย เป็นที่ต้องการของตลาดในปริมาณมาก 

            “ ปัจจุบันนี้ ผึ้งโพรงไทยใน อ.ตะโหมด มีไม่ต่ำกว่า 3,500 รัง ผลิตน้ำผึ้งได้ประมาณ 10,500 ขวด/ ปี ทำให้ครัวเรือนมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 5.2 ล้านบาท จึงขอประกาศให้สังคมภายนอกทราบว่า  LAND OF HONNEY ตะโหมด ดินแดนแห่งน้ำผึ้ง พร้อมๆ กับการกำหนดยุทธศาสตร์ขับเคลื่อน เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้มีความมั่นคงอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการเลี้ยงผึ้ง ” 

             การเลี้ยงผึ้งโพรงไทย ทำให้เกิดรายได้เสริม เป็นการพัฒนาการเลี้ยงให้เป็นอุตสาหกรรมเลี้ยงผึ้ง  มีการบริหารจัดการตลาดอย่างเป็นระบบ เพื่อเพิ่มมูลค่า และมีการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากน้ำผึ้ง  นอกเหนือจากเวชภัณฑ์ ไปสู่เครื่องสำอาง และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ รวมถึงการพัฒนารูปลักษณ์บรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัยขึ้น  ทั้งนี้ทำให้กลุ้มผู้เลี้ยงผึ้งอยู่รอดอย่างยั่งยืน

            นายดลเราะห์หมาน  นุ่มอุ้ย ประธานกลุ่มเลี้ยงผึ้งบ้านทุ่งเหรียง หมู่ 2 บ้านทุ่งเหรียง เทศบาลตำบลควนเสาธง   อ.ตะโหมด จ.พัทลุง  บอกว่า  การเลี้ยงผึ้งโพรงไทย ในอดีตยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากจากภาครัฐ และองค์กรท้องถิ่น หากได้รับการสนับสนุน จะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

            “สำหรับขณะนี้น้ำผึ้งโพรงไทย ในตลาดขาดแคลนมากแทบจะหาซื้อไม่ได้ ราคายังอยู่ที่ขวดละ 500 บาท บางพื้นที่ราคาได้ขยับขึ้น 650 บาท และ 700 บาท / ขวด”

            ด้าน คุณเอียด อาจสามาต เกษตรกรผึ้งโพรงไทย หมู่ 3 เทศบาลตำบลควนเสาธง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เป็นผู้เลี้ยงผึ้งโพรงไทยรายใหญ่ บอกว่า ในปี 2556 สามารถจับผึ้งโพรงไทยได้ประมาณ 50 ขวดถือว่าเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมากว่าเท่าตัว เนื่องจากเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเป็นฤดูกาลของพันธ์ไม้นานาพันธ์เริ่มออกดอก จึงเป็นแหล่งอาหารของผึ้ง สามารถจับได้รอบที่ 2

            “ปัจจัยสำคัญที่สามารถจับผึ้งโพรงไทย เพราะปีนี้ผึ้งใหญ่ หรือ ผึ้งหลวง ไม่ออกนอกพื้นที่อาศัยหากิน อยู่แต่บนภูเขา เช่น ภูเขาบรรทัด ไม่ลงมาข้างล่าง ซึ่งจะแย่งอาหารของผึ้งโพรงไทยหมด ทำให้ผึ้งโพรงไทยไม่มีอาหาร ส่งผลให้ได้ผลผลิตน้ำผึ้งน้อย เพราะไม่มีพรานผึ้งเข้าไปจับ และอีกทั้งป่าภูเขาไม่ถูกรบกวน จึงทำให้ผึ้งหลวงอยู่กับป่าและหาอาหารกินได้”  คุณเอียด กล่าว

            นายเสกสรร สีสะอาด หัวหน้าสำนักงานปลัดเทศบาลตำบลควนเสาธง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง บอกว่า  ผึ้งโพรงไทย เลี้ยงมากในอำเภอตะโหมด  รองลงมา คือ อ.ป่าบอน และ อ.กงหรา  โดยเฉพาะ อ.ตะโหมด  ขณะนี้เลี้ยงแล้วประมาณ 3,600 รัง ซึ่งปัจจุบันในพัทลุงมีการเลี้ยงครอบคลุมทั้ง 11 อำเภอ เฉลี่ยอำเภอละประมาณ 300 ลัง  

             “  ปัจจุบันทั้งจังหวัดพัทลุง มีการเลี้ยงผึ้งโพรงไทย ประมาณ 65,000 รัง โดยเฉลี่ยแล้วมีผลิตประมาณ 3 ขวด / รัง / ปี  สามารถสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัวเป็นอย่างดี"

            แหล่งผลิตใหญ่ของผึ้งโพรงอันดับ1 คือจังหวัดพัทลุง รองลงมาคือจังหวัดชุมพร ขณะที่ความต้องการของตลาด ยังมีความต้องการสูง แม้ว่าจะยังไม่สามารถสร้างเป็นอุตสาหกรรมได้ แต่หากในระยะ 4 ปี สามารถเลี้ยงตามเป้าหมายอำเภอละกว่า 2,000 รัง จะได้กว่า 23,600 ลัง โดยแต่ละรังเฉลี่ยผลผลิตได้ประมาณ 3 ขวด ราคาขวดละ 500 บาท จะสามารถทำเงินเข้าจังหวัดได้ถึงปีละไม่ต่ำกว่า 35 ล้านบาท


ตีพิมพ์ครั้งแรก: นิตยสาร ดิ อะลามี่ ฉบับ เดือนพฤศจิกายน 56