Hot Stories
Home   /   Hot Stories  /   “สุรินทร์ ปาลาเร่ ”พบสื่อมุสลิม พร้อมทำงานร่วมลดความขัดแย้ง

“สุรินทร์”พบสื่อมุสลิม พร้อมทำงานร่วมลดความขัดแย้ง

             สำนักข่าวอะลามี่:  “สุรินทร์ ปาราเร่” นำทีมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการกลางฯพบปะสื่อมุสลิม เรียกร้องให้สื่อช่วยทำความเข้าใจสังคมไทย หลังมีกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวให้พุทธ-อิสลามขัดแย้ง


            เมื่อเวลา16.00 น. ของวันที่ 30มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา พลตำรวจตรีสุรินทร์ ปาราเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยทีมงานฝ่ายเลขาธิการ  พบปะกับสื่อมุสลิม ที่โรงแรมรีเจนท์ ย่านรามคำแหง กรุงเทพมหานคร

             พลตำรวจตรี สุรินทร์ กล่าวว่า นับตั้งแต่มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกลางฯ ยังไม่เคยมีกิจกรรมในรูปแบบนี้ ทำให้สื่อมุสลิมกับองค์กรมุสลิมอาจมีความห่างเหิน และอาจไม่ส่งผลดีในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ว่าสื่อ หรือคณะกรรมการอิสลามฯ ล้วนแต่มีภาระในการทำงานเพื่อสังคม

            ดังนั้นกิจกรรมในครั้งนี้เพื่อเป็นการพบปะแลกเปลี่ยนความเห็นสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน ซึ่งทางคณะกรรมการกลางฯพร้อมที่จะรับฟังเพื่อนำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อไป

            อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีกลุ่มคนที่ไม่หวังดีพยายามเสี้ยมให้เกิดความขัดแย้งระหว่างศาสนาพุทะกับอิสลาม ซึ่งในอดีตเกิดขึ้นมาแล้วในหลายประเทศ ขณะนี้มีกลุ่มและประเทศมหาอำนาจกำลังเสี้ยมให้คนไทยทะเลาะกันโดยนำปัจจัยทางความเชื่อและศาสนามาเป็นเครื่องมือ

           ดังนั้นการพบปะในครั้งนี้เพื่อขอให้สื่อมุสลิมช่วยทำความเข้าใจและสื่อสารไปยังสังคม แต่เราไม่ได้หมายความว่าจะตอบโต้ เพียงแต่อยากช่วยให้ทำความเข้าใจกับคนในสังคมไทย

          เลขาธิการกรรมการกลางฯ กล่าวอีกว่า การพบปะในครั้งนี้จะนำไปสู่การพบปะกันอย่างต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งอาจมีกิจกรรมร่วมกันมากกว่านี้ออาทิเช่นการจัดกิจกรรมกีฬาสัมพันธ์ หรืองานเสวนา ที่จะทำงานใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น

          “ องค์กรศาสนา ปัจจุบันทำงานตามพระราชบัญญัติ 2540 ปัจจุบันมีมุสลิมในประเทศประมาณ6-7ล้านคน มีมัสยิดที่จดทะเบียน4,000 กว่ามัสยิด มีคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด39 จังหวัด มีคณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิดกว่า60,000 คน ท่าวประเทศ โดยมีจุฬาราชมนตรีเป็นผู้นำสูงสุด”

           พลตำรวจตรีสุรินทร์ กล่าวว่าในฐานะที่ตนเองมานั่งในตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย นอกจากจะให้ความสำคัญกับด้านฮาลาลแล้ว คณะกรรมการกลางฯจะต้องมีบทบาทในด้านการศึกษา ล่าสุดส่งนักศึกษาไปประเทศตุรกีและประเทศอียิปต์

           นอกจากนี้ยังต้องดูแลทางสังคม การสนับสนุนงบประมาณ20ล้านบาท ในการจัดตั้งศูนย์ดูแลเด็กกำพร้า บ้านศรีบอยา จังหวัดกระบี่ ซึ่งศูนย์ดังกล่าวจะเป็นการดูและเด็กกำพร้าโดยเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในชายแดนใต้ ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดใช้ได้เร็วๆนี้