Hot Stories
Home   /   Hot Stories  /    ไอแบงก์ ออกโครงการ “ยิ้มสู้ฟื้นฟูอาชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัย”

 ไอแบงก์ ออกโครงการ “ยิ้มสู้ฟื้นฟูอาชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัย”

                 สำนักข่าวอะลามี่: รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง  มอบหมายให้ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือ ไอแบงก์ เร่งจัดทำมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ภายใต้โครงการ “ยิ้มสู้ฟื้นฟูอาชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัย”      

      

(นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการธนาคารอิสลามฯมอบเงินผ่านรัฐบาลโดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับมอบ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย เมื่อเร็วๆนี้ )     

                นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดเหตุอุทกภัยขึ้นภายในประเทศอย่างฉับพลันเป็นบริเวณกว้าง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะในพื้นที่ทั้งทางภาคเหนือ ภาคอีสาน และ ภาคกลางรวมถึง กทม.ซึ่งน้ำเริ่มเข้าท่วมหลายเขตแล้วในปัจจุบัน โดยเกิดความเสียหายแล้ว รวม 30 จังหวัด

               ในฐานะที่กระทรวงการคลังซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการกำกับดูแลธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือ ไอแบงก์ จึงได้มอบนโยบายในการเร่งหามาตรการเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้อย่างเร่งด่วนและทันท่วงที  โดยได้ออกโครงการ ”ยิ้มสู้ฟื้นฟูอาชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัย” เพื่อต้องการแบ่งเบาภาระและให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบแก่ประชาชนโดยทั่วไปและลูกค้าของธนาคารทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

             โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1.เพื่อใช้ในการซ่อมแซม ปรับปรุง รื้อถอน หรือสร้างใหม่ในทรัพย์สินและหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆของผู้ที่ได้รับความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อม 2.เพื่อใช้เป็นเงินช่วยเหลือในภาวะฉุกเฉินอันเนื่องมาจากได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ 3.เพื่อช่วยเหลือสภาพคล่องทางรายได้และธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ

             นายวิรุฬ กล่าวอีกว่า การจัดโครงการดังกล่าวได้เตรียมออกมาตรการในการช่วยเหลือ รวม 3 มาตรการด้วยกัน คือ มาตรการที่1 สำหรับลูกค้ารายเดิมที่ไม่ประสงค์จะขอวงเงินสินเชื่อที่ได้รับความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อม จะได้รับการพักชำระทั้งเงินต้นและกำไร (พักชำระหนี้) เป็นเวลา 3 เดือน หลังจากนั้นเดือนที่ 4 – 6 ชำระเฉพาะอัตรากำไรเท่านั้น ส่วนเดือนที่ 7- 24 ชำระหนี้ตามปกติ โดยคิดอัตรากำไรต่ำกว่าสัญญาเดิม 1% และหลังจากเดือนที่ 25 หรือเข้าปีที่ 3 ธนาคารจะคิดอัตรากำไรตามปกติ

            มาตรการที่ 2  สำหรับลูกค้ารายเดิมที่ประสงค์จะขอวงเงินสินเชื่อเพิ่มเติม สามารถแบ่งประเภทสินเชื่อ ได้ดังนี้ สินเชื่อเพื่อก่อสร้าง ซ่อมแซม/ต่อเติม ที่อยู่อาศัยและสินเชื่อเพื่อการก่อสร้าง  ทรัพย์สิน และสินเชื่อวงเงินทุนระยะยาว สามารถปลอดการชำระเงินต้นสูงสุดได้ไม่เกิน 6 เดือน และคิดอัตรากำไรเริ่มต้นที่ SPRL – 1.50% ในปีแรก

            - สินเชื่อวงเงินทุนหมุนเวียน และเบิกถอนเงินสด วงเงินสินเชื่อเกิน และไม่เกิน 20 ล้านบาท คิดอัตรากำไรเริ่มต้นที่ SPRR – 0.5% ในปีแรก

            - สินเชื่อวงเงินเอนกประสงค์ กรณีใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน สามารถปลอดการชำระเงินต้นสูงสุดได้ไม่เกิน 6 เดือน และคิดอัตรากำไรเริ่มต้นที่ 5% ในปีแรก และกรณีใช้บุคคลค้ำประกัน สามารถปลอดการชำระเงินต้นสูงสุดได้ไม่เกิน 3 เดือน และคิดอัตรากำไรเริ่มต้นที่ 1% ใน 3 เดือนแรก

             ส่วน มาตรการที่ 3 สำหรับลูกค้ารายใหม่ที่ประสงค์จะขอวงเงินสินเชื่อ สามารถแบ่งประเภทสินเชื่อ ได้ดังนี้

            - สินเชื่อเพื่อก่อสร้าง ซ่อมแซม/ต่อเติม ที่อยู่อาศัยและสินเชื่อเพื่อการก่อสร้างทรัพย์สินและสินเชื่อวงเงินทุนระยะยาว สามารถปลอดการชำระเงินต้นสูงสุดได้ไม่เกิน 6 เดือน และคิดอัตรากำไรเริ่มต้นที่ SPRL – 0.50% ในปีแรก

             - สินเชื่อวงเงินทุนหมุนเวียน และเบิกถอนเงินสด วงเงินสินเชื่อเกิน และไม่เกิน 20 ล้านบาท คิดอัตรากำไรเริ่มต้นที่ SPRR  ในปีแรก

              - สินเชื่อวงเงินเอนกประสงค์ กรณีใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือบุคคลค้ำประกัน สามารถปลอดการชำระเงินต้นสูงสุดได้ไม่เกิน 3 เดือน และคิดอัตรากำไรเริ่มต้นที่ 2% ใน 3 เดือนแรก

              ทั้งนี้ ระยะเวลาในการผ่อนชำระเริ่มต้นตั้งแต่ 1 ปี – 30 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทของวงเงินสินเชื่อ โดยธนาคารเริ่มให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (ปัจจุบัน SPRL = 7.75 % SPRR = 8.50%)

              “ ล่าสุดได้มอบนโยบายให้ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ดำเนินการช่วยเหลือโรงครัวอาหารฮาลาล 2 แห่ง บริเวณอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตำบลภูเขาทอง ซึ่งเป็นศูนย์อพยพผู้ประสบอุทกภัยที่มีมุสลิมกว่า 2,000 คน และบริเวณศูนย์ราชการบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีมุสลิมที่ต้องการอาหารฮาลาลอยู่ประมาณ 1,500 คน โดยโรงครัวอาหารฮาลาลดังกล่าว จะจัดอาหาร 3 มื้อ ให้กับผู้ประสบอุทกภัยทุกวันจนกว่าน้ำในพื้นที่ดังกล่าวจะลด” รมช.คลังกล่าวและว่า

            นอกจากออกมาตรการช่วยเหลือน้ำท่วมในครั้งนี้แล้ว ไอแบงก์ ก็ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยโดยการมอบเงินบริจาคในโครงการคลังรวมใจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมเป็นเงิน 500,000 บาท พร้อมด้วยถุงยังชีพฮาลาล อีกเป็นจำนวน 5,500 ถุง เป็นเงินประมาณ 1,488,000 บาท ผ่านกระทรวงการคลัง เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยในจังหวัดลพบุรี และจังหวัดตาก ในสัปดาห์ที่ผ่านมา อีกทั้งยังได้สนับสนุนงบประมาณให้กับศูนย์ผู้ประสบภัยน้ำท่วม (ศปภ.) จำนวน 1,000,000 บาท และยังได้มอบถุงยังชีพฮาลาลในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนต่างๆ พร้อมกับบริจาคเงินให้แก่คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดอ่างทอง รวมเป็นเงินกว่า 3,300,000 บาท