Hot Stories
Home   /   Hot Stories  /   UNHCR จับมือ สำนักจุฬาราชมนตรี ชวนคนไทยร่วมบริจาค ? โครงการรอมฎอนนี้เพื่อพี่น้อง?

UNHCR จับมือสำนักจุฬาราชมนตรี

ชวนคนไทยร่วมบริจาค ” โครงการรอมฎอนนี้เพื่อพี่น้อง”

               สำนักข่าวอะลามี่ : UNHCR จับมือ สำนักจุฬาราชมนตรี ริเริ่มการรับมอบซะกาต พร้อมสานต่อโครงการ “รอมฎอนนี้เพื่อพี่น้อง ปีที่ 2 ”  ส่งต่อความช่วยเหลือต่อเนื่องถึงผู้ลี้ภัย ในเดือนแห่งความศักดิ์สิทธิ์


               สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR ประจำประเทศไทย ร่วมกับ สำนักจุฬาราชมนตรี และสภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี จัดสัมภาษณ์พิเศษ การริเริ่มรับบริจาคซะกาตและสานต่อโครงการ “ รอมฎอนนี้เพื่อพี่น้อง ปีที่ 2 ” เพื่อส่งเสริมให้ชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศร่วมบริจาคซะกาตและช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในเดือนรอมฎอน เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยที่ไม่มีโอกาสได้เฉลิมฉลองเดือนแห่งความศักดิ์สิทธิ์ในประเทศของตนและกำลังต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนทั่วโลก

               คุณอรุณี  อัชชะกุลวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการแผนกส่งเสริมความร่วมมือภาคเอกชน  สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR ประจำประเทศไทย กล่าวว่าศาสนาทุกศาสนามีหลักคำสอนและเป้าหมายเดียวกันคือความเมตตาและการช่วยเพื่อนมนุษย์โดย โครงการรอมฎอนนี้เพื่อพี่น้อง ในปีแรก เราได้รับการสนับสนุนจากชาวไทยมุสลิมในการช่วยผู้ลี้ภัยเป็นอย่างดี การบริจาคอย่างต่อเนื่องของทุกท่านได้ช่วยชีวิตพี่น้องชาวโรฮิงญา เพื่อซ่อมแซมที่พักในช่วงฤดูมรสุมที่ผ่านมา

                 สำหรับ วิกฤติผู้ลี้ภัยโลกในขณะนี้ รวมถึงวิกฤติครั้งใหม่ เช่น สงครามในซีเรีย หรือชาวโรฮิงญา ที่ลี้ภัยไปยังประเทศบังคลาเทศ ทำให้จำนวนผู้พลัดถิ่นมีสูงถึง 68.5 ล้านคน ส่งผลให้ในเดือนรอมฎอนนี้ มีผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมเป็นจำนวนมากที่ต้องระลึกถึงช่วงเวลานี้นอกประเทศหลังการลี้ภัยที่ยากลำบาก

                “ จำนวนผู้ลี้ภัยตอนนี้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 อันเนื่องมาจากสงคราม ความขัดแย้ง และการประหัตประหาร โดยเฉพาะในประเทศที่พี่น้องชาวมุสลิมเราอยู่อาจารย์ซากีย์ พิทักษ์คุมพล รองเลขานุการสำนักจุฬาราชมนตรี กล่าวและว่า

               สถานการณ์โลกเป็นเรื่องที่เราหรือพวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยตัวเอง แต่เราในฐานะพี่น้องร่วมโลกเดียวกัน เราสามารถช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้

              โครงการ “รอมฎอนนี้เพื่อพี่น้อง” เริ่มต้นขึ้นในปี 2561 ที่ผ่านมา และได้รับความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนอย่างดียิ่งในการระดมพลังความศรัทธา และสนับสนุนการระลึกถึงความยากลำบากและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนมนุษย์ผู้ด้อยโอกาสในช่วงเดือนรอมฎอน โครงการในปีที่ 2 จึงมีการขยายส่วนร่วมของชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศ จากการร่วมบริจาคเงินในเดือนรอมฎอนเพื่อผลบุญต่อตนเอง ไปยังการบริจาคซะกาต หรือทานประจำปี ซึ่งเป็นการบัญญัติขึ้นตามหลักศาสนาอิสลามเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในความทุกข์ยาก 8 ประการอีกด้วย

              อาจารย์ ซากีร์ กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา สำนักจุฬาราชมนตรี ร่วมกับสภาเครือข่ายมนุษย์ธรรม ได้ริเริ่มในการระดมเงินเพื่อการช่วยเหลือผู้อพยพลี้ภัยชาวโรงฮิงญา ในศูนย์อพยพประเทศบังคลาเทศ โดยได้รับการสนับสนุนในระดับหนึ่ง เป็นเงิน 1 ล้านบาท เป็นเงินช่วยเหลือจากพี่น้องมุสลิม แลคนไทยทั่วประเทศ

              สำหรับปีนี้ได้ขยายความร่วมมือกับ UNHCR ด้วยการนำเงินซากาต ไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัย พี่น้องชาวซีเรีย เลบานอน และอีก 2-3 ปะเทศ  ทั้งนี้เงินที่ได้รับจากเงินซากาต 100 % จะถูกนำส่งผู้เดือดร้อนจริง

               “ ในส่วนมิติทางศาสนานั้น เงินซากาต ในประเทศไทย เป็นเรื่องที่มีการพิจารณาแล้วอยู่ในลักษษณะของการอนุมัติ ทั้งนี้ขึ้นกับดุลพินิจผู้นำ ซึ่ง ท่านจุฬาราชมนตรี เองก็ได้พูดชัดเจนว่า เงินซากาตสามารถไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัยได้ ซึ่งตรงกับคำฟัตวาของผู้รู้ในหลายประเทศ “ อาจารย์ ซากีร์ กล่าว

              “ รอมฎอน เป็นช่วงเวลาที่ชาวมุสลิมได้ทบทวนถึงความยากลำบากที่เกิดขึ้นในโลก เป็นโอกาสในการแบ่งปันให้แก่คนด้อยโอกาส ยากจน และเปราะบาง ”  ดร. วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสำนักจุฬาราชมนตรี ประจำภาคใต้ กล่าว

                นอกจากนี้ การมอบซะกาตเพิ่มเติมระหว่างปี ยังทำให้จิตใจของผู้ให้สะอาดบริสุทธิ์และเป็นการช่วยเหลือพี่น้องชาวมุสลิมเพิ่มอีกด้วย ซึ่งผู้ลี้ภัยเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติ 4 ใน 8 ประการของผู้มีสิทธิ์ได้รับซะกาตตรงตามที่บัญญัติใว้ในอัลกุรอ่านบทที่ 9 โองการที่ 60 ซึ่งผู้ให้ทานจะเกิดความสุขใจสูงสุด

              ดร. วิสุทธิ์  กล่าวว่า UNHCR ทำงานร่วมกับมูลนิธิทาบาห์ องค์กรชั้นนำทางศาสนา เพื่อให้ได้รับการรับรองระดับโลกจากนักวิชาการศาสนา (นักฟัตวา) จากประเทศอียิปต์ เยเมน โมร็อกโก มอริเตเนีย เพื่อยืนยันว่า UNHCR มีคุณสมบัติในการรับซะกาตได้

             สภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี ยินดีร่วมมือและสนับสนุนการทำงานของ UNHCR ในการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในฐานะองค์กรภาคีเพื่อมนุษยธรรม โดย UNHCR จะนำเงินบริจาคทั้งหมดไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัยที่เปราะบางต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่คือ เด็กกำพร้า แม่เลี้ยงเดี่ยว และหญิงหม้าย

                โดยเงินบริจาคในเดือนรอมฎอน จะนำไปช่วยเหลือพี่น้องผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมโรฮิงญา ซีเรีย และเยเมน และเงินบริจาคซะกาต ตลอดทั้งปี จะถูกนำไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัยที่ตรงตามคุณสมบัติที่ควรได้รับซะกาตในประเทศเลบานอน จอร์แดน มอริเตเนีย อิรัก และเยเมน โดยซะกาตที่ UNHCR ได้รับทั้งหมด จะได้รับการดูแลและตรวจสอบอย่างเข้มงวดเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในทุกขั้นตอนตั้งแต่การบริจาคจนถึงการให้

  

หมายเหตุ : ผู้มีจิตศรัทธา สามารถบริจาคได้ที่ www.unhcr.or.th