Hot Stories
Home   /   Hot Stories  /   จดหมายเปิดผนึกคำแถลงและชี้แจงกรณีนักศึกษาไทยเดินทางกลับจากประเทศปากีสถาน

จดหมายเปิดผนึกคำแถลงและชี้แจงกรณีนักศึกษาไทยเดินทางกลับจากประเทศปากีสถาน


ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ

จดหมายเปิดผนึกคำแถลงและชี้แจงกรณีนักศึกษาไทยเดินทางกลับจากประเทศปากีสถาน

เมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๓ ด้วยเที่ยวบินพิเศษสายการบินไทย เที่ยวบิน TG๓๕๐

…………………………………………………………


            ตามที่รัฐบาลปากีสถานปิดประเทศเพื่อลดการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า ( โควิด ๑๙ ) ไปทั่วโลกนั้น โดยประกาศปิดพื้นที่ (lockdown) เมืองทั้งหมดในเเคว้นปัญจาบ ปิดการบริการและร้านค้าที่ไม่มีความจำเป็น เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ ๒๔ มีนาคม เวลา ๐๙.๐๐ น. - วันที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๓ การประกาศดังกล่าวมีผลให้ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ห้างสรรพสินค้า การขนส่งสาธารณะ ปิดชั่วคราว ยกเว้น ร้านขายของชำ ร้านขายเนื้อ ร้านขายยา สถานพยาบาล ร้านอาหารที่บริการรับส่ง (delivery) เป็นต้น

            กรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน มีนักศึกษาไทยกำลังศึกษาอยู่ ณ ขณะนี้ จำนวน ๒๓๘ คน โดยทั้งหมดเป็นนักเรียนในพื้นที่ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับผลกระทบเนื่องจากมหาวิทยาลัยปิดการเรียนการสอนและมีแนวโน้มการแพร่ระบาดในวงกว้างโดยล่าสุดได้รับการติดต่อและช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอิสลามาบัด ในการจัดหาเที่ยวบินเดินทางกลับมายังประเทศไทย


             โดยนักศึกษาทั้งหมดเป็นผู้ชำระค่าโดยสารด้วยตนเอง และบางส่วนได้ดำเนินการกู้ยืมเงินฉุกเฉินจากกระทรวงต่างประเทศผ่านเอกอัครราชทูตตามระเบียบของกระทรวง โดยนักศึกษาที่มีความประสงค์จะกลับจำนวน ๒๒๑ คน แบ่งเป็นชาย ๑๓๗ คน หญิง ๘๔ คน และมีนักศึกษาจากเมืองการาจีรวมถึงคนไทยที่อยู่ในประเทศปากีสถาน ได้แจ้งความประสงค์มายังสถานเอกอัครราชทูตในการเดินทางกลับประเทศไทย โดยทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือจากมหาวิทยาลัยในการออกใบรับรองแพทย์ และสถานเอกอัครราชทูตได้ออกใบรับรองการเดินทาง (Fit To Fly)

             โดยทั้งหมดจะเดินทางโดยเที่ยวบินพิเศษของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG๓๕๐ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานกรุงอิสลามาบัด มายังท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยเที่ยวบินออกจากท่าอากาศยานนานาชาติกรุงอิสลามาบัด เวลา ๒๓.๔๐ น. วันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๓ และเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา ๐๖.๑๕ น. ของวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๓

             ทั้งนี้ หลังจากที่รัฐบาลปากีสถานใด้ประกาศปิดเมือง (Lockdown) ทำให้มหาวิทยาลัย ต้องปิดไปด้วยแบบไม่มีกำหนดทางมหาวิทยาลัยสั่งให้นักศึกษาสัญชาติปากีสถานกลับบ้าน และให้นักศึกษานานาชาติ กักตัวอยู่หอพักในของมหาวิทยาลัยและมีการควบคุมจากเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมหอพักของนักศึกษาอย่างเข้มงวด โดยกักตัวก่อนจะบินกลับนานกว่าสองสัปดาห์ ซึ่งมีทีมแพทย์คอยเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดโดยมีการดูแลเข้มงวด ห้ามออกไปด้านนอก และบุคคลภายนอกก็ห้ามเข้า นักศึกษาต้องสวมหน้ากากอนามัย หากมีอะไรต้องการ ให้แจ้งผู้คุมหอ แล้วเขาจะจัดมาให้ตามคำร้องขอของนักศึกษา ส่วนก่อนบินกลับที่ท่าอากาศยานปากีสถานมีการคัดกรองตามระเบียบการบิน ตรวจไข้ และตรวจหนังสือ ( Fit to fly) ซึ่งใครไม่มีหนังสือฉบับนี้ ทางสายการบิน ไม่ให้เช็คอินโดยเด็ดขาดและเจ้าหน้าที่มีการตรวจหนังสืออย่างเข้มงวด โดยในวันนั้นมีผู้ที่ไม่มีหนังสือรับรอง (Fit to fly) ซึ่งสายการบินปฏิเสธการเช็คอิน (ใบรับรองแพทย์และใบรับรองการเดินทางไม่ได้ยืนยันว่าผู้โดยสารไม่มีเชื้อแต่เป็นสิ่งที่พวกเราพร้อมใจกันทำตามประกาศของกรมการบินพลเรือนในการเดินทางเข้าประเทศไทย)

             เมื่อคณะนักศึกษาเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ มีการคัดกรองตามมาตรฐานของรัฐบาลไทย โดยมีทีมแพทย์ไทยคัดกรองตรวจเข้มมาก วัดไข้ ตรวจเอกสารต่างๆ ตามกฎของกรมการบินพลเรือน หากใครที่มีอุณหภูมิร่างกายสูง เจ้าหน้าที่ตรวจเพิ่มเติมอย่างละเอียดตามขั้นตอนของการควบคุมโรคระบาดประจำด่านเข้า-ออกประเทศ ก่อนจะผ่านตรวจค้นเข้าเมือง จากนั้นมีเจ้าหน้าที่จากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) รอรับคณะนักศึกษาที่ทางออกของท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ แล้วไปส่งที่สำนักงานบริษัท AOT เพื่อแยกขึ้นรถกลับตามจังหวัดต่างๆ โดยใช้รถบัสจัดที่นั่งแบบเว้นระยะห่าง(Social Distancing) คันละ 20 คน แต่ละคันมีระยะห่างของการนั่งตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขทุกอย่าง ซึ่งบริษัท AOT มีเจ้าหน้าดูแลอย่างใกล้ชิด มีการติตามตลอดระยะเวลาการเดินทางระหว่างทางโดย GPS ตรวจสอบว่าคนขับรถบัสได้จอดที่ไหนบ้าง ความเร็วเท่าไหร่ เจ้าหน้าที่มีความระมัดระวังและใส่ใจทุกรายละเอียดเพื่อไม่ให้นักศึกษา สัมผัสกับพื้นที่ภายนอก รวมถึงสั่งอาหารจากร้านแล้วจอดรับอาหารขึ้นแจกบนรถจะไม่ปล่อยให้นักศึกษาลงไปทาน

            เมื่อเข้าเขตจังหวัดในแต่ละจังหวัดมีจุดคัดกรองเคร่งครัด เช่น ปัตตานีที่จุดคัดกรองด่านเกาะหม้อแกง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับนำขบวนรถไปส่งตามสถานที่ที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมควบคุมโรคระบาดประจำพื้นที่ได้เตรียมที่คัดกรองไว้ และต่อมาส่งต่อที่สถานที่ที่ทางจังหวัด สาธารณสุขจังหวัดได้เตรียมไว้ เพื่อกักตัว ๑๔ วัน

            ตามมาตรการ LOCAL QUARANTINE นักศึกษาไทยทั้งหมด จากประเทศปากีสถาน ทั้งปัตตานี ยะลา นราธิวาสที่ได้เดินทางกลับนี้รวมถึงจังหวัดอื่นๆ พร้อมปฏิบัติการตามมาตราการ เพื่อความสบายใจทุกภาคส่วน ทั้งรัฐและประชาชนทั้งประเทศ แม้คณะนักศึกษาไม่มีใครติดเชื้อก็ตาม แต่ยินดีที่จะให้ความร่วมมือ

            ในการกักตัว ยังไม่พบใคร แม้กระทั้งครอบครัวที่บ้าน ที่รอการกลับ พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งจากพ่อแม่พี่น้อง ที่สำคัญที่สุดพวกเรานักศึกษาไทย มหาวิทยาอิสลามนานาชาติ กรุงอิสลามาบัด (IIUI) ไม่มีใครได้ทุนจากรัฐบาล เราเอาทุนจากครอบครัวที่บ้านและพวกเราเรียนคณะแตกต่างกัน มีทั้ง เศรษฐศาสตร์ อักษรศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และจิตวิทยา ฯลฯ ไม่ได้ด้านศาสนาอย่างเดียวและไม่มีหลักสูตรหรือความคิดที่เป็นภัยต่อประเทศใดๆทั้งสิ้น เราร่วมกิจกรรมกับทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอิสลามาบัดมาโดยตลอด พวกเรายินดีให้ความร่วมมือเกี่ยวกับข้อปฏิบัติของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด แม้คณะนักศึกษาจะเดินทางมาถึง ยังไม่เจอพ่อกับแม่ และสมาชิกครอบครัวด้วย เรามากักตัว ๑๔ วัน ด้วยความยินดี ก่อนกลับถึงบ้าน ครบกำหนดแล้วค่อยกลับบ้านกัน

             พวกเราขอขอบคุณที่ทำให้คนไทยในต่างแดนได้กลับบ้าน ขอบคุณ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ สถานเอกอัครราชทูตทุกคนที่คอยชี้แนะตลอดมาและแจ้งประเมินสถานการณ์ว่าควรกลับบ้าน และอำนวยความสะดวกในการกลับบ้านครั้งนี้ ขอบคุณ Thai Airways ที่ยังเปิดโอกาสให้มีเที่ยวบินพิเศษ ขอบคุณรัฐบาลไทย ในการประสานและอำนวยความสะดวก ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า กระทรวงมหาดไทย


             ขอบคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัด ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ นายแพทย์สาธารณสุข ยะลา ปัตตานี และ นราธิวาสในการดูแล ให้คำแนะนำและตรวจสุขภาพพวกเราตลอดระยะเวลาของการกักตัวตามมาตรการ ขอบคุณ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่ประสานข้อมูลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทีมเครือข่ายนักศึกษาศิษย์เก่าต่างประเทศในการประสานงานระหว่างสมาคมฯกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

               ขอบคุณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี องค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา และองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส ที่เตรียมสถานที่ สำหรับการกักตัวของพวกเรา ตามจังหวัดต่างๆ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องในการช่วยพวกเราในฐานะพี่น้องร่วมชาติในครั้งนี้ พวกเราจะใช้เวลาที่กลับมาให้เกิดประโยชน์กับตนเองและส่วนรวม ร่วมช่วยกันพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้และประเทศไทย

                ขอให้ทุกคนมีความอดทนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและหมั่นขอดูอา (ขอพร) จากอัลลอฮฺพระผู้เป็นเจ้าอย่างสม่ำเสมอและขอพระองค์ทรงห่างไกลโรคระบาดให้พ้นไปจากเรา โปรดคุ้มครองเราและพี่น้องทั่วโลก  ด้วยเถิด

                 ขอแสดงความนับถือ

                คณะกรรมการสมาคมนักศึกษาไทย ณ กรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน