Hot Stories
Home   /   Hot Stories  /   คนไทยในมาเลเซีย 7,000 คน เตรียมเดินทางกลับไทยดีเดย์ 18 เมษานี้

คนไทยในมาเลเซีย 7,000 คน เตรียมเดินทางกลับไทยดีเดย์ 18 เมษานี้

            สำนักข่าวอะลามี่: ศอ.บต.พร้อมรับคนงานไทยในมาเลเซีย 7,000 คน ที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศ โดยประสานกับจังหวัดและพื้นที่เพื่อกักกันตัวตามมาตรการป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดไวรัส โควิด-19  ซึ่งคาดว่าจะเพียงพอที่จะสามารถรองรับได้

            พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษทางรายการเรื่องดังหลังข่าว ทางช่อง NBT2HD ว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เราค่อนข้างห่วงกังวลพอสมควร แต่สถานการณ์ในวันนี้ (14 เมษายน 2563) ค่อนข้างที่จะคลายความกังวลลงได้บ้าง ในส่วนของจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นมีจำนวนไม่มาก ไม่มีการเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ โดยภาพรวมในขณะนี้ทุกส่วนทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้ง 5 จังหวัด หน่วยงานด้านความมั่นคง  กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า และ ศอ.บต. เองก็ได้ร่วมมือกันกับทุกภาคส่วนในการที่จะป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งถือได้ว่า ค่อนข้างจะผ่อนคลายลง

              สำหรับตัวเลขของผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซียที่มีความเดือดร้อนและมีความประสงค์จะเดินทางกลับภูมิลำเนามีประมาณ 7,000 คน โดยได้ประสานกับภาคประชาสังคม รวมทั้งอาสาสมัครไทยและประธานกลุ่มผู้ประกอบการต้มยำกุ้งในประเทศมาเลเซีย ได้สำรวจตรวจสอบทุกพื้นที่

              ในส่วนของการเปิดด่านเพื่อให้คนเริ่มทยอยเดินทางกลับมาในวันที่ 18 เมษายนนี้ นั้น เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า จะแบ่งออกเป็น 4 ช่องทาง ประกอบด้วย ด่านวังประจัน จังหวัดสตูล จะเปิดให้คนเดินทางผ่านเข้าวันละประมาณ 50 คน  ด่านสะเดา จังหวัดสงขลา วันละไม่เกิน 100 คน ด่านเบตง จังหวัดยะลา วันละไม่เกิน 50 คน ด่านสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส วันละ 100 คน รวมแล้ววันละไม่เกิน 300 คน โดยทางสถานทูตไทยในกัวลาลัมเปอร์ได้ออกหนังสือแจ้ง และได้ประชาสัมพันธ์ตลอดวันว่าให้เริ่มเพื่อลงทะเบียนหลังเที่ยงคืนของวันที่ 14 เมษายน พร้อมทั้งมีการแนะนำเรื่องของการลงทะเบียนและข้อมูลเรื่องของการใช้เอกสารต่างๆ

              ทั้งนี้ในส่วนฝั่งไทยทางกระทรวงมหาดไทย ก็มีหนังสือสั่งการทางผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้เตรียมการสถานที่ กักกันตัวตามมาตรการป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดไวรัส โควิด-19  ซึ่งคาดว่าจะเพียงพอที่จะสามารถรองรับได้

              อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีการประสานไปยังประธานกลุ่มต่างๆ เช่น ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย เพื่อสำรวจกลุ่มคนที่ไม่ได้เดินทางกลับมาและได้มีมาตรการช่วยเหลือในลักษณะของถุงยังชีพ อีกด้วย

              สำหรับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจระยะยาว เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ศอ.บต. ได้เกิดโครงการตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ซึ่งจะมีการจัดสรรงบประมาณลงไป ที่สภาสันติสุขของทุกตำบล เพื่อใช้งบประมาณในการเตรียมความพร้อมดูแลเรื่องของการยังชีพ หรือ ครัวเคลื่อนที่เพื่อให้มีการผลิตอาหารและเกิดเศรษฐกิจฐานรากด้วยการหมุนเวียนและดูแลในเรื่องความจำเป็นพื้นฐานต่างๆ เพื่อพึ่งพาตนเองสู่ความยั่งยืนได้ ซึ่งได้มีการสำรวจเรื่องขับเคลื่อนโครงการนี้ คือการ ลดรายจ่าย  เพิ่มรายได้  โดยเฉพาะภาคเกษตร เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร จัดหาตลาด รวมทั้งเรื่องของการพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมโยงแหล่งน้ำ