Food & Healhty
Home   /   Food & Healhty  /   สสว.หนุนผู้ประกอบการท่องเที่ยวสร้างมูลค่าเพิ่มตลาด

สสว.หนุนผู้ประกอบการท่องเที่ยวสร้างมูลค่าเพิ่มตลาด

          สำนักข่าวอะลามี่ : สสว.หนุนพัฒนาผู้ประกอบการท่องเที่ยวเน้นนวัตกรรมสร้างมูลค่าเพิ่มเชื่อมโยงตลาด สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเผยพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการจากอเมซิ่งไทยแลนสู่มิราเคิลไทยแลนด์

            ที่ จ.นครศรีธรรมราช สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมพร้อมด้วยสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเดินสายติวผู้ประกอบการท่องเที่ยวยกระดับคุณสินค้าและบริการสร้างมูลค่าเพิ่มโดยใช้นวัตกรรมใหม่เพื่อเชื่อมโยงการตลาด โดยมีผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน และภาคใต้ฝั่งตะวันออกเข้าร่วมจำนวนมาก

           นายวชิระ แก้วกอ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เปิดเผยภายหลังจากประชุมกลุ่มเฉพาะ หรือ Focus Group ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในกลุ่มพื้นที่ 3 ภาคใต้ฝั่งอันดามัน และกลุ่มพื้นที่ 4  ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ที่โรงแรมทวินโลตัส อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ว่า ยุทธศาสตร์ที่เราสนับสนุนนั้นตรงกับแผนที่สสว.ได้ดำเนินการคือบริบทแล้วต้องเดินไปตามยุทธศาสตร์ที่ทำไว้ในแผน 5 ปีในปี 55-59 หลังจากนั้นเรามีแผนปฏิบัติการปัจจุบันกำลังรออนุมัติจากบอร์ดบริหารของสสว. ยุทธศาสตร์ภาพใหญ่และแผนปฏิบัติการเราจะทำตามนั้น สสว.เป็นหน่วยงานพันธมิตรกับทุกหน่วยเพื่มร่วมทำงานในบทบาทการท่องเที่ยวเป็นภารกิจที่สำคัญของประเทศ

         “สสว.กำหนดไว้ว่าต้องผลักดันการท่องเที่ยวโดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี มีผู้ประกอบการคิดจากร้อยละถึง 99 เปอร์เซ็นคิดเป็น 2.8-2.9 ล้านราย เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเยอะมาก ธุรกิจท่องเที่ยวจึงสำคัญและขาดไม่ได้ ในตัวงบนั้นเรายังไม่ชัดเจน เราเน้นเรื่องกรอบยุทธศาสตร์หลักก่อนตัวเลขจึงยังไม่ชัด ช่วงนี้กำลังเปลี่ยนบอร์ดเราจึงยังรอการอนุมัติ ส่วนความตึงเครียดทางการเมืองนั้นคงไม่กระทบกับ สสว.แต่เราเป็นอิสระภายใต้อุตสาหกรรมเราต้องเดินไปตามแผนที่กำหนดไว้ การเมืองเองคงไม่มีผลมากน้อยว่าไปตามนโยบายเป็นหลัก”

          ขณะที่ นายศุภโชค ทรัพย์สุคนธ์ ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การดำเนินการของเราคือการสร้างแบรนด์ และอิมเมจของการท่องเที่ยวในท้องถิ่น เราได้ทำโครงการต่อเนื่องมา 3  ปี มีการวิจัยในการสร้างแบรนด์และหาอัตลักษณ์ในกลุ่มพื้นที่ท่องเที่ยวต่างๆ จริงๆแล้วประเทศไทยมีเมืองท่องเที่ยวหลักๆอยู่แค่ 10เมืองเท่านั้นมีนักท่องเที่ยวประมาณกว่า 1 ล้านคน แต่ในเมืองรายรอบหรือเมืองอื่นๆนั้นยังไม่ได้ประโยชน์ใดๆมากนัก ทั้งที่อยู่ร่วมกันมีอัตลักษณ์ร่วมกันดังนั้นเราเห็นว่าจึงควรกระจายรายได้ต่างๆเหล่านี้ออกไปให้กว้างมากขึ้น

           “นวัตกรรมสร้างมูลค่าเพิ่มเชื่อมโยงตลาด จึงถูกดำเนินโครงการนี้ขึ้นเพื่อสร้างแบรนด์ อิมเมจ และแสดงถึงอัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นเป็นความแตกต่างและเป็นมูลค่าคุณค่าเฉพาะของพื้นถิ่นที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยว เรารับฟังความคิดเห็นและทำมา 2 ปีแล้วกำลังนำเข้ามาสู่การปฏิบัติจริง ขั้นตอนดำเนินการจริง ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญอีกครั้งหนึ่ง เป็นการเริ่มต้นมาตั้งแต่อเมซซิ่งไทยแลนด์มาจนถึงปัจจุบันคือมิราเคิลไทยแลนด์เป็นการนำเอาเอกลักษณ์ของท้องถิ่นมานำเสนอที่ไม่สามารถหาในแหล่งอื่นๆได้ ซึ่งในช่วงของการพัฒนานั้นอาจจะช้าเล็กน้อยแต่วันนี้เราสามารถนำไปสู่การปฏิบัติจริงได้แล้ว” ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกล่าว

            นายศุภโชค ทรัพย์สุคนธ์ ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยังกล่าวถึงเรื่องของการปรับค่าแรงขั้นต่ำว่า ที่แน่ๆนั้นส่งผลกระทบในเรื่องของต้นทุนแต่เราต้องปรับประสิทธิภาพ ศักยภาพความสามารถของคนในการทำงาน ระบบการทำงานให้ดีมากยิ่งขึ้น แต่ถ้ามองในมุมบวกนั้นพนักงานต้องปรับความสามารถเพิ่มขึ้นตามกับค่าตอบแทนที่ได้เท่ากับเป็นการเตรียมพร้อมในการสร้างศักยภาพเข้าสู่ AEC.ในปี 2558 นี้ และถ้าคนมีกำลังจับจ่ายเพิ่มมากขึ้นมันต้องเป็นเงินเฟ้ออยู่แล้วและถ้าให้มีเศรษฐกิจดีต้องให้เป็นเงินเฟ้ออ่อนๆ ถ้าไม่ให้เฟ้อเลยคงเป็นไปไม่ได้ขณะเดียวกันผู้ประกอบการต้องปรับตัวในการสร้างประสิทธิภาพไม่ให้กระทบกับการประกอบการและผลักภาระไปสู่ประชาชน.