เทพา ทรานซิส เปิดเวทีพบชาวบ้าน

รับฟังความคิดเห็นต่อโครงการพร้อมเดินหน้าเคียงข้างชุมชน

         สำนักข่าวอะลามี่ : ท่าเทียบเรือ เทพา ทรานซิท เทอร์มินอล เชิญชาวบ้านในตำบลปากบาง ตำบลเทพา และตำบลเกาะสะบ้ากว่า 300 คน ที่อยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตรจากพื้นที่ตั้งโครงการ เข้ารับฟังผลการศึกษาการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ ยันพร้อมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและเดินเคียงข้างชุมชน หนุนตั้งคณะกรรมการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม ร่วมกำกับดูแล ตรวจสอบการปฏิบัติตามมาตรการสิ่งแวดล้อม และเป็นสื่อกลาง เพื่อสื่อสารระหว่างโครงการและประชาชน ในการสร้างความเข้าใจที่มีต่อกัน

        เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 บริษัท เทพา ทรานซิท เทอร์มินอล จำกัด ในฐานะผู้ประกอบการกิจการท่าเทียบเรือในพื้นที่อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ได้มอบหมาย บริษัท สิ่งแวดล้อมสยาม จำกัด บริษัทที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ดำเนินการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งการประชุมครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 เพื่อนำเสนอร่างรายงานและมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมประชุม เป็นการสร้างความมั่นใจในรายงานฯ และมาตรการฯ ของโครงการท่าเทียบเรือ เทพา ทรานซิส เทอร์มินอล โดยจัดขึ้น ณ อาคารจอดรถ องค์การบริหารส่วนตำบลปากบาง หมู่ที่ 1 ตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา มีผู้เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็น จากตัวแทนจากราชการ สถานพยาบาล สถานศึกษา ผู้นำศาสนา กลุ่มประมง หน่วยงานภาคเอกชน ผู้นำชุมชน ผู้นำองค์กร และตัวแทนจากชาวบ้านที่อยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตรจากพื้นที่ตั้งโครงการ กว่า 300 ค

         ได้รับเกียรติจาก นายพีรวัส ณ ตะกั่วทุ่ง ปลัดอำเภอเทพา ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายอำเภอเทพา มาเป็นประธานเปิดงานการรับฟังความคิดเห็นดังกล่าว

        นายธนกร ทองเจริญ  ที่ปรึกษาบริษัท เทพา ทรานซิท เทอร์มินอล จำกัด กล่าวรายงานต่อประธานว่าตามที่ กรมเจ้าท่า ได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือที่มีใบอนุญาตเทียบเรือขนาดไม่เกิน 500 ตันกรอส ที่มีโครงสร้างของท่าเรือที่สามารถรองรับเรือขนาดเกิน 500 ตันกรอสได้ สามารถยื่นขอเปลี่ยนวัตถุประสงค์การใช้ท่าเทียบเรือให้รองรับเรือที่มีขนาดเกินกว่า 500 ตันกรอสได้ โดยได้ออกระเบียบกรมเจ้าท่า ว่าด้วยการขอเปลี่ยนวัตถุประสงค์หรือประเภทการใช้ท่าเทียบเรือขนาดไม่เกิน 500 ตันกรอส ให้สามารถใช้เทียบเรือขนาดเกินกว่า 500 ตันกรอสได้ พ.ศ. 2563 กำหนดให้ท่าเรือต้องจัดทำ EIA ประกอบการยื่นขออนุญาต

        ซึ่งบริษัท เทพา ทรานซิท เทอร์มินอล จำกัด มีจุดมุ่งหมายให้ท่าเทียบเรือที่มีอยู่เดิม และได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่าแล้ว สามารถรองรับเรือที่มีขนาดเกินกว่า 500 ตันกรอส เข้าเทียบท่าเรือนั้นได้ โดยไม่มีการก่อสร้างท่าเทียบเรือเพิ่มเติมไปจากใบอนุญาตเดิม และมีวิศวกรโยธาระดับวุฒิวิศวกรเป็นผู้ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของท่าเทียบเรือ ว่าสามารถรองรับเรือขนาดเกินกว่า 500 ตันกรอส เข้าเทียบท่าได้อย่างปลอดภัย ไม่กีดขวางการจราจรทางน้ำ และสามารถกลับลำเรือได้

        ทั้งนี้ในปี พ.ศ. 2562 ท่าเทียบเรือของโครงการ ได้รับความเห็นชอบให้เปลี่ยนวัตถุประสงค์หรือประเภทการใช้ท่าเทียบเรือขนาดเกิน 500 ตันกรอสได้ตามระเบียบกรมเจ้าท่าฯ ปี พ.ศ.2557 และตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โครงการประเภทท่าเทียบเรือ ที่รองรับเรือขนาดตั้งแต่ 500 ตันกรอสขึ้นไป หรือ มีความยาวหน้าท่าตั้งแต่ 100 เมตร แต่ไม่ถึง 300 เมตร หรือมีพื้นที่ท่าเทียบเรือรวม ตั้งแต่ 1,000 ตารางเมตร แต่ไม่ถึง 10,000 ตารางเมตร ต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม

         ด้วยระเบียบดังกล่าว ส่งผลให้ท่าเทียบเรือหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงท่าเทียบเรือ เทพา ทรานซิท เทอร์มินอล ต้องเข้าสู่กระบวนการศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารและมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ทางโครงการฯ จึงมอบหมายให้ บริษัท สิ่งแวดล้อมสยาม จำกัด ดำเนินการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม

         โดยบริษัทที่ปรึกษา ได้นำข้อมูลการศึกษาผลกระทบมาชี้แจงกับประชาชนที่เข้ารับฟัง โดยเฉพาะเรื่องที่ชาวบ้านกังวลใจ คือ เรื่องฝุ่นละออง การสัญจรของทางสาธารณะ ปัญหาน้ำท่วม และการสัญจรเรือของชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงโครงการ ซึ่งทางโครงการพร้อมดำเนินการปรับปรุง ทางสัญจรสาธารณะ

        นอกจากนี้ปัญหาฝุ่นละออง ท่าเรือได้ดำเนินการติดตั้งสแลนปิดกั้น ป้องกันการฟุ้งกระจายของฝุ่นละออง ซึ่งจะได้มีการปลูกต้นไม้เพิ่มเติม ซึ่งชาวบ้านพึงพอใจกับการดำเนินการดังกล่าว ส่วนเรื่องน้ำท่วมในพื้นที่โครงการจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขุดลอกคลองเพื่อระบายทางน้ำต่อไป โดยการชี้แจงในครั้งนี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ติดขัดกับมาตรการ  ที่โครงการฯ ได้นำเสนอแต่อย่างใด

        นายอนุมัติ อาหมัด กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทพา ทรานซิท เทอร์มินอล จำกัด กล่าวว่า วันนี้มารับฟังผลกระทบจากโครงการฯ โดยให้บริษัทที่ปรึกษามาเสนอแนะให้เราปรับปรุง ในฐานะเจ้าของโครงการ เรายืนยันว่าเรามีความรับผิดชอบ พยายามลดผลกระทบไม่ให้เข้าไปสู่ระบบสิ่งแวดล้อม ซึ่งจากนี้ไปโครงการจะถูกควบคุมด้วยระบบ EIA ทั้งนี้เพื่อเป็นประโยชน์กับพี่น้องในพื้นที่

         ส่วนข้อเสนอแนะที่ชาวบ้านต้องการให้โครงการจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานกับโครงการ เราพร้อมและยินดี ที่จะให้มีคณะกรรมการประสานงานดังกล่าว โดยมีตัวแทนของชาวบ้านแต่ละหมู่บ้าน และตัวแทนจากชุมชนต่างๆ ซึ่งโครงการพร้อมจะรับฟัง และจะเป็นช่องทางในการสื่อสารระหว่างโครงการกับชุมชนต่อไป