สภาที่ปรึกษา ศอ.บต.ถกแก้ปมขู่ปิดกิจการวันศุกร์
สำนักข่าวอะลามี่ : สภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชุมหารือแนวทางแก้ไข ปัญหากรณีห้ามของขายวันศุกร์ พร้อมเสนอแนวทางเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย หาข้อยุติร่วมกัน
จากกรณีที่มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีในพื้นที่ ได้ว่อนใบปลิวประกาศห้ามไม่ให้ชาวบ้านออกมาขายของ และออกไปทำงานในทุกกรณี ในวันศุกร์ ซึ่งที่ผ่านมานั้น ยังคงมีชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เป็นพี่น้องชาวไทยพุทธ และพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน ยังคงมีการเปิดร้านขายของอย่างปกติ ทำให้เกิดความหวาดกลัวและความเป็นห่วง ในความไม่ปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก ส่งผลต่อธุรกิจค้าขาย บ้างก็มีการข่มขู่ เพื่อไม่ให้ขายของ หากขัดขืน หรือท้าทาย ก็จะมีเหตุความเป็นไป เช่นเหตุการณ์คาร์บอมบ์ที่เคยเกิดขึ้นที่ อ.สายบุรี ในย่านการค้า เมื่อวันศุกร์ที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย และบาดเจ็บ 41 ราย
วันนี้ (2 ต.ค.55) เวลา 10.00 น. ที่ห้องชั้น 3 ศูนย์อำนวยการบนริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมือง จ.ยะลา นายอาซิส เบ็ญหาวัณ ประธานสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สปต.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต) ได้เรียกสมาชิกสภาฯ ประชุมนัดพิเศษ หารือถึงเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นการเร่งด่วน โดยมี พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วมหารือ ทั้งนี้ในที่ประชุมได้มีการเสนอแนวทาง และหามาตรการในการสร้างความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชน รวมถึงหน่วยงานรัฐและหน่วยงานด้านความมั่นคง ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ และผู้นำท้องถิ่น เพื่อหาข้อสรุปและข้อยุติในการแก้ปัญหา
นายอาซิส เบ็ญหาวัณ ประธานสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ทางสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นตัวแทนจากภาคประชาชน เรามีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่มีข่าวลือ ข่าวปล่อยออกมาจากลุ่มผู้ที่ไม่หวังดี ที่เรายังหาต้นตอไม่ได้ ที่มีการข่มขู่ ให้หยุดขายของหรือเปิดกิจการร้านค้าในวันศุกร์ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แต่เป็นเรื่องใหญ่ แม้ว่าเรื่องนี้จะเคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีตที่ผ่านมา ที่ให้หยุดในวันศุกร์ แต่ทุกอย่างก็ผ่านมาคลี่คลายไปในทางที่ดี
" สำหรับวันนี้เป็นการระดมความคิดเห็นจากสมาชิกสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 49 คน เพื่อรับฟังความคิดเห็นว่าท่านมีความคิดอย่างไร และ มีข้อเสนอแนะอย่างไร โดยมีการสรุป 3 ประเด็นด้วยกัน ที่จะต้องร่วมกันคลี่คลายสถานการณ์นี้ให้ได้ในระดับหนึ่ง "นายอาซิส กล่าวและว่า
ประเด็นแรก ส่วนราชการจะต้องสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน ในเรื่องของความปลอดภัยในการทำธุรกิจค้าขายในวันศุกร์ให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง และผู้นำศาสนา ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน
ประเด็นที่สอง เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ภาครัฐที่เกี่ยวข้องจะต้องตรวจสอบที่มาให้แน่ชัดว่า ตั้นตอที่มาของการปล่อยข่าวที่ห้ามขายของในวันศุกร์ เกิดขึ้นได้อย่างไร เกิดขึ้นจากขบวนการไหน ไม่ว่าจะเป็นของกลุ่มอิทธิพลอำนาจมืด กลุ่มค้ายาเสพติด กลุ่มค้าน้ำมันเถื่อน แล้วให้ดำเนินการตามที่ส่วนราชการ หรือ หน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อทำความเข้าใจให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ยุติลงให้ได้
ประเด็นที่สาม คือ จะต้องให้ผู้นำศาสนาเป็นตัวแปรที่สำคัญ อาจจะมีการออกคำแถลงการณ์ ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะพี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ ว่านี่คือหลักการทางศาสนาหรือไม่ ประการใด ในขณะเดียวกันผู้นำศาสนาต้องเดินควบคู่กับฝ่ายผู้นำท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น นายก อบต. ลงพื้นที่ไปทำความเข้าใจกับชาวบ้าน พี่น้องประชาชน ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคืออะไร และ เราจะสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างไร
" สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่มีการเสนอในที่ประชุมวันนี้ คือ การดำเนินการจัดตั้งศูนย์ เพื่อสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นระหว่าง บุคคลต่างศาสนา อาจจะเป็นศูนย์ปรองดอง ศูนย์สร้างสมานฉันท์ โดยมีผู้นำศาสนาหลายๆศาสนา และเยาวชน เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำงาน ให้มีพูดคุยให้ความรู้ความเข้าใจในหลักการของแต่ละศาสนา ให้รู้ถึงวัฒนธรรมที่มาที่ไป อันนี้เพื่อเป็นการป้องกันในระยะยาว "
นายอาซิส กล่าวอีกว่า สำหรับข้อเสนอทั้งหมด จะมีการนำเสนอต่อเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป เพื่อนำไปสู่แนวทางการยุติกรณีข่าวลือห้ามขายของหรือประกอบกิจการในวันศุกร์อย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ ทางสภาที่ปรึกษาฯ ได้มีการเชิญหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งเจ้าหน้าที่ทหารจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ภาค 4 ส่วนหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากศูนย์ปฎิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ เจ้าหน้าปกครอง มาร่วมหารือร่วมกันว่าจะมีทางออกอย่างไร ในการสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน
ส่วนกรณีข่าวลือที่ว่า มีผู้ชายใส่เสื้อแจ๊คเกตสีดำ ที่พยายามเข้าไปแสดงตัวและท่าที ต่อร้านค้าที่เปิดกิจการในวันศุกร์ในเชิงข่มขู่ ตรงจุดนี้ก็มีข่าวลือที่ว่ามีการเกิดขึ้นจริงในหลายๆพื้นที่ แต่ก็ยังหาต้นตอไม่ได้ เพราะหลังจากที่สอบถามถึงลักษณะรูปพรรณของผู้ที่มาข่มขู่ ก็ไม่สามารถบอกได้ว่า เป็นใคร ลักษณะรูปพรรณสัณฐานเป็นอย่างไร ซึ่งการข่าวปล่อย ข่าวลือ จำเป็นอย่างยิ่งที่ทางเจ้าหน้าที่และพี่น้องประชาชนต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและถี่ถ้วน เพื่อสยบข่าวลือให้ได้ ส่วนใครจะเปิดกิจการค้าขาย หรือปิดกิจการค้าขายในวันศุกร์ ก็เป็นวิจารณญาณของแต่ละคนไป