Hot Stories
Home   /   Hot Stories  /    ธนาคารอิสลามฯแถลงเร่งแผนฟื้นฟูสร้างความเชื่อมั่น

ธนาคารอิสลามฯแถลงเร่งแผนฟื้นฟูสร้างความเชื่อมั่น

โดย: วรัญญา พุ่มเพ็ชร  รายงาน


          สำนักข่าวอะลามี่ : ธนาคารอิสลาม เร่งแผนฟื้นฟู สร้างความมั่นใจกับผู้ถือหุ้น-ลูกค้าและประชาชนทั่วไป ให้กลับมาเป็นผลกำไร ภายในปี 2556


            นายเปรมกมล ทินกร ณ อยุธยา ประธานกรรมการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (บอร์ดไอแบงก์ ) กล่าวว่า จากสถานการณ์ของธนาคารฯ ยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบต่อระบบการบริหารธนาคาร เพราะธนาคารมีผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยรัฐบาล 98 % และกระทรวงการคลัง คุ้มครองเงินฝาก  ทั้งนี้นโยบายของธนาคารอิสลามมุ่งเน้นการให้บริการทางการเงินต่อพี่น้องพี่น้องมุสลิม ให้สามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน อย่างถูกต้องมีประสิทธิภาพและถูกต้องตามหลักอิสลาม ซึ่งธนาคารมีบอร์ดชารีอะห์ ร่วมประชุมหารือกับผู้บริหาร ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติกฎหมายและถูกต้องตามหลักศาสนา

            สำหรับผลการดำเนินงาน ทิศทางและนโยบายของธนาคารอิสลามฯ ยังไม่ส่งผลกระทบต่อลูกค้าของธนาคาร  โดยธนาคารได้ปรับแผนฟื้นฟูกิจการให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ของธนาคารในปัจจุบัน เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้เร็วที่สุด

            ทั้งนี้ธนาคารมีความมุ่งมั่น จัดการใน 4 ประเด็นหลัก ในช่วงระยะเวลาอันสั้น ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2559-ธันวาคม 2556 ดังนี้

            ด้านเงินฝาก และสภาพคล่อง โดยมีแผนระดมเงินฝาก ไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท ทั้งลูกค้ารายใหญ่ (หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ นิติบุคคล) ลูกค้ารายย่อยด้วยอัตราผลตอบแทน บุกตลาด SMEs และตลาดโอท็อป รวมไปถึงการการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น

            ด้านการแก้ไขหนี้ด้อยคุณภาพ ปรับแผนเร่งรัดโครงสร้างหนี้รายตัว ตั้งเป้าลดหนี้ด้อยคุณภาพ ภายใน 2556 หนี้ด้อยคุณภาพที่สามารถนำมาปรับปรุงแก้ไขได้ จำนวน 8,000 ล้านคาดว่าจะจะแก้ไขได้ประมาณ 5,000 ล้านบาทเศษและจะเร่งปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้เสร็จภายในปี 2557

            ด้านสินเชื่อ  ธนาคารได้ปรับปรุงกระบวนการอนุมัติสินเชื่อใหม่ โดยเน้นสินเชื่อมีศักยภาพ พร้อมกับทำแผนป้องกันการตกชั้นของลูกหนี้ไม่ให้เกิน 5%ของสินเชื่อรวม ควบคู่ไปกับการแก้ไขกระบวนการอนุมัติ และเบิกจ่ายสินเชื่อให้ถูกต้องและรวดเร็ว

         

            พร้อมกันนี้จะเร่งสร้างความเชื่อมั่น 3 ประเด็นหลักประกอบด้วย 1.สถานะการเงินที่แข็งแรง ทั้งการสร้างความแข็งแกร่งของเงินกองทุน จากที่ต่ำกว่า 8.5% กลับมาเกินกว่าเกณฑ์ ตามข้อกฎหมายกำหนดภายในปีนี้

            2.การขยายตลาดและกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ จากการเปิดสาขาเพิ่ม และการสร้างพันธมิตรใหม่ๆ เช่น กลุ่มสหกรณ์มุสลิม OTOP และ SMEs

            3.ให้ความสำคัญกับผู้ถือหุ้น โดยการสื่อสารกันอย่างใกล้ชิด เดินสาย Roadshow พบลูกค้าทั่วทุกภูมิภาคและพบผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชนมุสลิมให้มากขึ้น

            นายเปรมกมล ยังกล่าวอีกว่า ทั้งนี้เราจะร่วมมือกันทำงานให้สำเร็จ และจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง นำพาธนาคารไปสู่ความสำเร็จ พนักงานจะต้องซื่อสัตย์สุจริต ความสำเร็จ และอนาคตอันสดใส พระผู้เป็นเจ้าจะมอบให้ พร้อมที่จะก้าวเดินต่อไปและนำความอยู่ดีกินดีมาสู่พี่น้องทุกคน

            ทั้งนี้ปัจจุบันธนาคารมีสาขาเปิดทำการอยู่แล้ว 106 สาขา และจะเร่งดำเนินการเปิดสาขาเพิ่มอีก 23 สาขาภายในเดือนสิงหาคม-กันยายนปีนี้ โดยเน้นขยายไปในกลุ่มชุมชนมุสลิมมากขึ้น นอกจากนี้ธนาคารยังร่วมจับมือกับสหกรณ์อิสลามภาคใต้ เพื่อเข้าถึงลูกค้าในทุกระดับอีกด้วย