Hot Stories
Home   /   Hot Stories  /   Interview : อิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก

Interview :  อิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก: โจทย์ใหญ่ ดันทัวร์ฮาลาลปั้นเม็ดเงินเข้าประเทศ

โดย เอกราช มูเก็ม

           หากพูดถึงรายได้ของประเทศ นอกจากรายได้จากการส่งออกเป็นรายได้หลักแล้ว รายได้จากการท่องเที่ยวนับว่าเป็นรายได้สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ” สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ (สทท.) นับเป็นองค์กรสำคัญในการขับเคลื่อนและมีบทบาทต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย”

             นิตยสาร ดิอะลามี่ ฉบับนี้ เราขอแนะนำนักธุรกิจหนุ่มจากจังหวัดกระบี่ “ อิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก”  อดีตนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.กระบี่ และอดีตรองประธานสมาพันธ์ธุรกิจท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

            วันนี้ “ อิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ได้ก้าวมานั่งในตำแหน่ง ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ได้ร่วม 2 เดือน หลังจากได้รับการเลือกตั้งโดยมีวาระบริหารงาน 2 ปี

             “ อิทธิฤทธิ์” กล่าวถึง บทบาทของ สทท.ว่า เป็นองค์กรตั้งขึ้นมา โดยมี พรบ.รองรับเ พื่อให้เป็นศูนย์กลางรวมภาคเอกชนของการท่องเที่ยว มีหน้าที่ในการพัฒนา ขับเคลื่อน การท่องเที่ยวให้มีศักยภาพและมีขีดความสามารถในการแข่งขัน ในขณะเดียวกันต้องพัฒนาผู้ประกอบการ นั่นคือมาตรฐานของการบริการ และคุณภาพของคน รวมไปถึงด้านภาษา

           “ผมตั้งเป้าในการขับเคลื่อนประเทศไทยเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียน เป้าหมายหลัก 5ประการ คือ 1. ผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวของภูมิภาคอาเซียน 2. ขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนา และส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 3. ส่งเสริมการตลาดในเชิงรุกทั้งในและต่างประเทศ 4. ส่งเสริมและพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการท่องเที่ยว และ 5. สร้างความแข็งแกร่งและความเป็นหนึ่งเดียวของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งทั้งหมดนี้จะผลักดันภายใต้หัวข้อ 11 ประการ”

            อิทธิฤทธิ์ บอกว่าการที่เราจะเป็นผู้นำในอาเซียนได้ จะต้องมีองค์ประกอบดังนี้  การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การเข้าถึงเรื่องสายการบิน ท่าอากาศยานทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ รวมไปถึงการขยายสนามบินในภูมิภาคต่างๆ เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อรองรับการเข้าสู่อาเซียน

           อย่างไรก็ตามปัญหาที่พบคือ แหล่งท่องเที่ยวในหลายพื้นที่กำลังต้องการบูรณฟื้นฟู จึงจำเป็นที่จะต้องประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงหน่วยงานระดับท้องถิ่น ที่จะขับเคลื่อนให้มีความรู้เรื่องการพัฒนาการท่องเที่ยว

           ขณะเดียวกันยังคงรักษาวัฒนธรรม ประเพณี รวมไปถึงวิถีชีวิตให้คงอยู่ (แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม) สร้างความเป็นจุดแข็ง เพื่อเป็นจุดขายในอนาคต ซึ่งในปีหน้า(2558) ททท.จะนำเสนอเรื่องของการส่งเสริมการท่องเที่ยว วิถีไทย ซึ่งจะมีจุดขายที่มีความหลากหลายของประเทศไทย

            นอกจากนี้การขยายตัวของนักท่องเที่ยว จะส่งผลกระทบถึงการใช้ทรัพยากรการท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น จะทำให้ทรัพยากรธรรมชาติเสื่อมโทรม ฉะนั้นเราจะต้องเพิ่มในเรื่องของแหล่งท่องเที่ยวประเภท แมนเมด (Man Made  Attraction) เช่น สวนสนุก สวนน้ำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายมากขึ้นเช่นกัน

            “ การผลักดันให้เกิดการลงทุนแหล่งท่องเที่ยว ดังนั้นบทบาทของ สทท. เราจะทำอย่างไรให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้เขามีโอกาสในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น”

              อิทธิฤทธิ์ กล่าวถึงการทำงานในโอกาสที่นั่งตำแหน่งวาระ 2 ปี ว่า ณ วันนี้ เรามีปัญหาในเรื่องของนักท่องเที่ยวจะเห็นว่าสถิติ ตกลงไปมาก จากปัจจัยประการแรก ผลกระทบจากด้านการเมืองในประเทศในช่วงที่ผ่านมา และเรื่องของกฎอัยการศึก (มีผลกับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา เพราะบางประเทศนักท่องเที่ยวไม่กล้าเข้ามา เนื่องจากบริษัทประกันไม่คุ้มครอง)

             ประการที่สอง เรื่องของเศรษฐกิจทั่วโลก ปัจจุบันพบว่าโซนยุโรปเศรษฐกิจถดถอย การเดินทางของนักท่องเที่ยวก็จะเที่ยวในระยะใกล้ ทำให้การเดินทางในระยะไกลลดน้อยลง  และประการที่สาม ในเรื่องของความปลอดภัยคิดว่ามีความจำเป็นที่จะต้องสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเมืองไทย ไม่ว่าจะไปที่ไหนต้องปลอดภัย ซึ่งทั้งหมดเราจะต้องรีบดำเนินการอย่างเร่งด่วน

             ส่วนในระยะกลางเรื่องของการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และการพัฒนาคนเป็นเรื่องสำคัญ และในอนาคต จะต้องมีการเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้านเราจะต้องหาตลาดใหม่ๆ เข้ามา ทดแทน

             “ผมมองว่าวันนี้เรายังมีอีกเรื่องหนึ่งที่มีคนพูดถึงน้อยมาก ถ้าเราทำได้ ก็จะมีผลกลับมาในเรื่องของตัวเลขของนักท่องเที่ยว และรายได้มหาศาล นั่นคือเรื่องฮาลาลทัวริซึ่ม วันนี้เรามีประชากรในอาเซียนกว่า 600 ล้านคน มีมุสลิมกว่า 250 ล้านคน ขณะที่ประชากรมุสลิมทั่วโลกมากกว่า 1.6 พันล้านคน”
             โดยตลาดกลุ่มนี้มีตั้งแต่ระดับกลางถึงระดับพรีเมียม ถ้าเราจะใช้แนวทางในการดึงตัวเลขรายได้การเที่ยวของประเทศไทย ก็มีความจำเป็นที่จะต้องหาตลาดใหม่ๆ โดยการจับมือกัน ระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยว สถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย หรือ คณะกรรมการกลางแห่งประเทศไทย รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนในเรื่องนี้

“ตอนนี้ ททท.เองมีการคุยกันแล้ว แต่เบื้องต้นคงจะต้องมีการพัฒนาผู้ประกอบการก่อน ในการให้ความรู้เรื่องฮาลาล การปฏิบัติ และสิ่งที่จะต้องทำ คือพัฒนาให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้ และสามารถพัฒนาเพื่อรองรับการท่องเที่ยวฮาลาลได้ เช่น ร้านอาหาร สปาเพื่อสุขภาพ ทำให้มีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งในแต่ละจุดสามารถที่จะทำรายได้มาก”

            อิทธิฤทธิ์ บอกว่า ในโอกาสที่นั่งในตำแหน่งนี้ จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง มีความจำเป็นที่จะต้องมีส่วนผลักดันให้องค์กรต่างๆ ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวได้มีความรู้ในเรื่องของฮาลาล ทั้งภาคผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วม และรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีความรู้เรื่องนี้ด้วย

            “ ในอนาคตเราจะเพิ่มเรื่องการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวเข้าใจ และรู้เรื่องตลาดฮาลาลให้สู่วงกว้างมากขึ้น และจะเป็นหนึ่งในโจทย์สำคัญ ที่จะต้องเร่งผลักดันโครงการนี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เข้ามาทดแทนช่องว่างในช่วงโลว์ซีซั่นซึ่งคิดว่าจะเป็นตัวเสริมรายได้ และทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างต่อเนื่องได้ตลอดทั้งปี ”

             ในอนาคตข้างหน้าเมื่ออาเซียนเปิดประเทศไทยจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้น ซึ่งในระยะเวลาอีก 4-5 ปี ข้างหน้า หรือ ปี 2561 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 50 ล้านคน จากเดิมปี 56 เรามีตัวเลขนักท่องเที่ยวเข้ามา 26.7 ล้านคน มีรายได้ ประมาณ  1.17 ล้านบาท ในอนาคตจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามา ถ้าเราบริหารจัดการดีๆ รายได้ที่เข้ามา ในอีกสี่ถึงห้าปีข้างหน้าคาดว่าประมาณ 4 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดว่ามีโอกาสที่จะเป็นไปได้

            “ ในฐานะที่เป็นตัวแทนจากภูมิภาคและมาจากภาคใต้ มองว่า ปัจจุบันอันดามัน เรามีศักยภาพ ในเรื่องของการท่องเที่ยว ซีซันแซนอยู่แล้ว เรามีสายการบินต่างๆ มาลงสนามบินภูเก็ต กระบี่ ตรัง มีท่าอากาศยานรองรับ สามารถเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้านได้ สถิตินักท่องเที่ยวเข้ามาทั้งประเทศ มาฝั่งอันดามันประมาณ 30-40% ทำรายได้ปีละประมาณ  2 แสนกว่าล้านบาท ”

              อิทธิฤทธิ์ บอกว่า จากปัจจัยข้างต้น คิดว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องหันมามองโซนอันดามัน  อย่าปล่อยเป็นการขับเคลื่อนโดยเอกชน เพียงลำพัง ถ้าภาครัฐเข้ามาสอดรับ ทั้งในเรื่องท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยวให้ได้มาตรฐานมากขึ้น นอกจากนี้เรื่องของท่าอากาศยาน ปัจจุบันมีสายการบินจากประเทศ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดฯ บินเชื่อมมาลงกระบี่เป็นจำนวนมาก จึงควรที่จะพัฒนาให้ได้มาตรฐาน รวมทั้งถนนสี่เลนเชื่อมโยงอันดามันทั้งหมดเชื่อมั่นว่าในอนาคตกลุ่มอันดามันจะทำรายได้ให้ประเทศมากขึ้น

            ในขณะเดียวกันในกลุ่มอันดามันยังมีจุดแข็งผู้ประกอบการที่เป็นมุสลิม คิดว่าน่าจะเป็นจุดขายที่จะพัฒนาในเรื่องของการท่องเที่ยวฮาลาลทัวริสซึ่มได้ สามารถเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านได้  นับเป็นการต่อยอดที่สำคัญ

           “วันนี้เรามีห้องพักที่มีผู้ประกอบการมุสลิมในจังหวัดกระบี่ประมาณพันกว่าห้อง มีโรงแรมของมุสลิม 10 กว่าโรงแรม กระจายตามพื้นที่ต่างๆ เช่น อ่าวนาง เกาพีพี  ไร่เลย์ เกาะลันตา ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เราได้มีการพัฒนานำร่องไปแล้ว จากนี้ไป จะมีการจับมือกับ ททท.และ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา สถาบันมาตรฐานฮาลาล ซึ่งจะไม่ได้พัฒนาเรื่องอาหารอย่างเดียว แต่จะทำตลาดควบคู่ไปด้วย “

             “อิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก” ยังมีบทบาทในอีกหลายด้าน ล่าสุดได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ประธานงานเมาลิดกลางจังหวัดกระบี่ ซึ่งนับได้ว่าเป็นกิจกรรมทางสังคมของพี่น้องมุสลิม ที่ขึ้นชื่อของจังหวัด

              “ ในปีนี้ เราจะจัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 กุมภาพันธ์ 2558 จะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของรูปแบบจัดงาน เพื่อให้สอดรับกับการเข้าสู่เวทีประชาคมอาเซียน โดยในปีนี้จะเพิ่มพื้นที่ เรื่องให้ความรู้ ในเรื่องของนิทรรศการ วิชาการต่างๆ เพิ่มมากขึ้น”

              อิทธิฤทธิ์ กล่าวว่า งานเมาลิดกลางปีนี้ เราจะส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว จะมีผู้ประกอบการฮาลาลทัวริซึ่ม ไปออกบูธในงานเพื่อให้มีการส่งเสริมเชื่อมโยงของคนในพื้นที่กับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้จะมีงานใหญ่ เวทีการสัมมนาฮาลาลอาเซียนเพื่อสร้างองค์ความรู้ของผู้ประกอบการ และมุสลิมจากประเทศเพื่อนบ้าน

              “งานเมาลิดกลางจังหวัดกระบี่ในปีนี้ จะเป็นงานที่รำลึกถึงท่านศาสดา รวมเอาความรู้เรื่องศาสนา  ความรู้เรื่องต่างๆ ในอาเซียน รวมถึงการช้อปปิ้งบนความหลากหลาย เราจึงใช้เวทีนี้ในการสร้างมูลค่าเพิ่มในทางธุรกิจควบคู่กันไป” อิทธิฤทธิ์ กล่าวและว่า

             งานเมาลิดกลางกระบี่ คืองานหนึ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้บรรจุในปฏิทินการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ด้วย เป็นการโชว์วัฒนธรรมประเพณี วิถีชีวิต ของชาวมุสลิมในกระบี่ที่สะท้อนให้นักท่องเที่ยวเห็นว่า มุสลิมกลุ่มหนึ่งในจังหวัดกระบี่ มีวัฒนธรรม ประเพณี รวมทั้งวิถีชีวิต และเป็นจุดหนึ่งที่จะเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ฮาลาลทัวริซึ่ม อีกด้วย.


ตีพิมพ์ครั้งแรก : นิตยสาร ดิ อะลามี่ ฉบับเดือนธันวาคม 2557