Hot Stories
Home   /   Hot Stories  /   กองทัพบกไทย-อินโดฯลงนามร่วมมือร่วมสร้างสันติสุขชายแดนใต้

กองทัพบกไทย-อินโดฯ ลงนามความร่วมมือ

ร่วมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้ของไทย

โดย  เสริมสุข กษิติประดิษฐ์

         หัวหน้ากองบรรณาธิการข่าวสถานีโทรทัศน์นิวทีวี

               สำนักข่าวอะลามี่ : ความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างกองทัพบกไทยกับกองทัพบกอินโดนีเซีย ขยายความร่วมมือหวังร่วมสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย


             (อาเจะห์ อินโดนีเซีย) : ช่วงบ่ายที่วันที่ 14 มกราคม 2563 ผ่านมา ที่กองบัญชาการกองทัพภาค ISKANDAR MUDA ในเมืองอาเจะห์ อินโดนีเซีย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกของไทย ได้ลงนามร่วมกับผู้บัญชาการทหารบกของอินโดนีเซีย นายพล ANDIKA PERKASSA ในเอกสารว่าด้วยหลักการปฎิบัติ ความร่วมมือทางทหารระหว่างกองทัพบกไทยกับกองทัพบกอินโดนีเซีย (IMPLEMENTING AGREEMENT)

           “ โดยสาระของความร่วมมือคือ การขยายความร่วมมือจากงานยุทธการฝึก การข่าว และการแลกเปลี่ยนดูงานด้านการทหาร มาเพิ่มความร่วมมือด้านข่าวกรองให้ครอบคลุมการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย หลังจากพบว่าแกนนำหรือผู้ก่อความม่สงบบางคนเคยมีการเคลื่อนไหวหลบซ่อนตัวในอินโดนีเซีย”

            นอกจากนี้ร่วมกันติดตามกลุ่มหัวรุนแรง กลุ่มก่อความไม่สงบ ที่มีการเคลื่อนไหวกระทบความมั่นคงของสองประเทศ ติดตามกลุ่มบุคคลที่หลบหนีใช้ไทยหรืออินโดนีเซีย เป็นฐานในการเคลื่อนไหวบั่นทอนความมั่นคงภายในและความสงบสันติของไทยหรืออินโดนีเซีย

            พล.อ.อภิรัชต์ เปิดเผยถึงความคาดหวังการลงนามในครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่กองทัพบกของทั้งสองประเทศจะร่วมมือด้านข่าวกรองต่อกลุ่มบุคคลที่เคลื่อนไหวกระทบความมั่นคงของทั้งสองประเทศจะมีส่วนหนุนเสริมในระยะยาวต่อการสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะมีความร่วมมือกันในระดับกองทัพภาค ระหว่างกองทัพภาค 4 และ กองทัพภาค ISKANDAR MUDA ในเมืองอาเจะห์

             ระหว่างการหารือ พล.อ.อภิรัชต์ ได้แนะนำตัวแม่ทัพภาคที่ 4 พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ กับผู้บัญชาการทหารบกของอินโดนีเซีย ขณะที่ ผู้บัญชาการทหารบกอินโดนีเซีย ก็แนะนำแม่ทัพภาคอาเจะห์ ให้กับ พล.อ.อภิรัชต์ ซึ่งได้กำชับให้แม่ทัพภาคที่ 4 วางแผนประสานการทำงานให้เป็นไปตามข้อตกลงในกรอบข้อตกลงใหม่

           ทั้งนี้เหตุผลการเลือกจังหวัดอาเจะห์ เป็นสถานที่ลงนามขยายความร่วมมือด้านการทหารกับกองทัพอินโดนีเซีย เนื่องจากอาเจะห์ เคยเป็นพื้นที่ขัดแย้งด้านการทหารอย่างรุนแรงยาวนาน 29 ปี ระหว่างกองกำลังอาเจะห์เสรี ( Gerakan Aceh Merdeka: GAM) กับ กองทัพบกอินโดนีเซีย ก่อนมีการลงนามข้อตกลงานติภาพในปี 2549 ยุติความขัดแย้งด้านการทหารโดยสิ้นเชิง

            โดย GAM ยอมยุติการต่อสู้ด้วยอาวุธ ยกเลิกการเรียกร้องเอกราชจากอินโดนีเซีย ขณะที่รัฐบาลอินโดนีเซีย ยอมกระจายอำนาจให้กองกำลังติดอาวุธอาเจะห์เสรี เข้าร่วมในการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งในปัจจุบันผู้ว่าการจังหวัดอาเจะห์ เป็นอดีตผู้นำของ GAM

             นายพล PERKASSA ผู้บัญชาการทหาบกของอินโดนีเซีย กล่าวถึงข้อตกลงสันติภาพในปี 2549 ได้นำความสงบ ความเจริญรุ่งเรือง การพัฒนาและการลงทุนเข้ามาในพื้นที่ และแสดงความคาดหวังการขยายความร่วมมือกับกองทัพบกไทย จะมีส่วนนำความสงบสันติสุขมาสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย

            ระหว่างเยือนอาเจะห์ กองทัพบกอินโดนีเซีย ได้เชิญ MALIK MAHMUD AL HAYTAR อดีตผู้นำฝ่ายรการเมืองของ GAM ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของรัฐบาลท้องถิ่นอาเจะห์ มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้บัญชาการกองทัพบกของไทย พร้อมคาดหวังประสบการณ์สันติภาพของอาเจะห์ ที่เกิดความสูญเสียต่อชีวิตประชาชนอย่างมากมาย จะเป็นบทเรียนที่ดีต่อการสร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย

           MALIK MAHMUD AL HAYTAR  อดีตผู้นำ GAM กล่าวว่า รับทราบถึงสถานการณ์ความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ที่มีความสูญเสียอย่างมากต่อประชาชนในพื้นที่  พร้อมกล่าวถึงการที่ GAM ตัดสินใจยุติการต่อสู้ด้วยอาวุธ ยกเลิกข้อเรียกร้องเอกราชในปี 2549 เพราะไม่ต้องการเห็นความสูญเสียของประชาชนอีก และยังเห็นว่า การเป็นส่วนหนึ่งของอินโดนีเซีย ไม่แยกตัวเป็นเอกราชเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง หากเป็นประเทศเล็กๆจะไม่มีอำนาจในการต่อรองใดๆบนเวทีโลก  และ คาดหวังการลงนามขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงจะเป็นส่วนสำคัญสร้างสันติสุขในชายแดนใต้