Hot Stories
Home   /   Hot Stories  /   ทะเลหมอก อัยเยอร์เวง มีทั้งปี @ เบตง

ทะเลหมอก "อัยเยอร์เวง" มีทั้งปี @ เบตง

วิฑูร พึงประเสริฐ 

บรรณาธิการที่ปรึกษา นิตยสาร อะลามี่

              สำนักข่าวอะลามี่ : ตื่นแต่เช้าให้ไปถึงจุดชมวิว ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง แหล่งท่องเที่ยวใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แห่งแรก จุดติดแล้วที่ อ.เบตง จ.ยะลา


               05.00 น. ตื่นแต่เช้าออกเดินทางขึ้นไปบนยอดดอยชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง มีหมอกให้ชมตลอดทั้งปี ที่ตั้งอยู่ห่างจากอำเภอเบตง ประมาณ 40 กิโลเมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,038 ฟุต เป็นทะเลหมอกใหญ่ ในหุบเขากว้าง

               ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง เด่นแตกต่างจากทะเลหมอกในภาคเหนือและที่อื่นๆ คือ ไม่ต้องลุ้น มีทะเลหมอกให้ชมตามธรรมชาติทุกวัน ทุกเช้า ปีละ 365 วัน ไม่ต้องรอเวลาฤดูหนาว หรือรอฝนในบางเดือนถึงได้ชมทะเลหมอก

              เริ่มแต่วันนี้ถึงปลายปีนี้  ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง อ.เบตง กำลังเป็นจุดหมายแหล่งท่องเที่ยวใหม่ชนิดดาวรุ่งพุ่งแรง  ถูกปักหมุดในใจ ให้เป็น " จุดหมายท่องเที่ยว" ที่ผู้คนต่างถิ่น ต่างตั้งอกตั้งใจ ต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวไทยจากจังหวัดใกล้เคียงและนักท่องเที่ยวไทย ที่รอสนามบินใหม่เบตง เปิดเที่ยวบินให้บริการ ยิ่งจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น เพราะการเดินทางที่สะดวกมากขึ้น เพียงไม่เกินชั่วโมงครึ่งจากสนามบินกรุงเทพฯ ก็บินมาถึง เบตง ได้โดยตรง

              คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวผู้เดินทางมาเยือนมากเพิ่มขึ้นเกินกว่า 1 ล้านคนในปี 2564 และนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้ ตัวเลขก็เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

             จุดชมวิวเริ่มหนาแน่นด้วยผู้คน จากผลของการเปิดสกายวอล์คอัยเยอร์เวง ให้ขึ้นไปชมทะเลหมอกได้อย่างไม่เป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้คนเริ่มหลั่งไหลไปสู่เมืองชายแดนเล็กๆ แห่งนี้ มากขึ้น

            ความงามที่ได้ชมจะแตกต่างกันไปทุกวัน


             ไม่มีใครรู้ได้ว่า หมอกจะมากหรือน้อย สวยมากสวยน้อย แต่มีวิธีสังเกตคือ ฝนตกในเมือง รุ่งเช้าหมอกจะมากบนยอดดอยชมทะเลหมอก ได้สัมผัสอากาศอันบริสุทธิ์ และทัศนียภาพที่สวยงาม

             ชมแล้ว ถ้าหิว ก็ทานอาหารเช้า ณ ซุ้มอาหารบนทะเลหมอก ที่ได้บรรยายกาศท้องถิ่น มีเมนูบริการหลากหลายอาทิเช่น ข้าวหมกไก่ ข้าวต้ม โรตี ไข่ต้ม ชาและกาแฟ หรือจะซื้อของที่ระลึกได้ตามสะดวก ที่นิยมมากเห็นจะเป็นเสื้อยึดทะเลหมอก หรือเสื้อยึดเบตง

            ความงามของทะเลหมอก เป็นที่มาของสมญานามว่า “เมืองในหมอก


            สำหรับ อ.เบตง ความแข็งแกร่งของชุมชนและความจริงจังของ อสม.(อาสาสมัครสาธารณสุข) ที่เคร่งครัด สอดส่องดูแลใส่ใจใกล้ชิดทุกคนที่แปลกหน้าเข้าเมือง ถึงวันนี้คนติดเชื้อโควิด19 มีตัวเลขเท่ากับ 0 ไม่มีติดสักคนเดียว

            เมืองในหมอก อากาศเย็นสบาย เฉลี่ย 20-22 องศา ถ้าหน้าหนาว อาจจะลดต่ำลงเหลือ15 องศา

            คนเบตง เป็นผู้ที่มีอัธยาศัยดี คอยแนะนำต้อนรับผู้มาเยือน กลางเมือง มีหอนาฬิกาขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่กลางสี่แยก เป็นศูนย์กลางเมือง เดินไปมาก็จะมาบรรจบที่นี่

             เมืองนี้มีสวนสาธารณะลอยฟ้าเหนือตัวเมือง ไว้ให้ประชาชนออกกำลังกายและขึ้นไปชมเมืองกลางหมอกได้ทั้งเมือง

             ใต้สวนสาธารณะ มีอุโมงค์มงคลฤทธิ์  อุโมงค์-แห่งแรกของประเทศไทย หรือจะแวะไปกินอาหารจีน ที่มีมากมายไม่แพ้เยาวราช อย่าง เมนูติ่มซำ เบิดบริการตั้งแต่เช้าตั้งแต่ตี 5 มีอาหารพิเศษเฉพาะถิ่น อย่างไก่เบตง ที่โด่งดังรสชาติ มีอาหารชาวกวางสี ฮากกา อย่างเคาหยก (อาหารจีนกวางตุ้งและยูนนานแท้) ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้น เต้าหู้ หรือผักน้ำ อาหารถิ่นที่มีเฉพาะของชาวเบตง และยังมี ปลาจีน ปลานิล น้ำไหลเลี้ยงบนภูเขา ไม่มีกลิ่นดิน ไปแล้วต้องกิน

           เมืองในหมอก ชายแดนใต้สุดสยาม อ.เบตง ซ่อนตัวอยู่ในอ้อมกอดของหุบเขา เมืองเล็กๆ สงบ อากาศเย็นสบาย  อาหารอร่อย  เมืองที่นักท่องเที่ยวมาเลเชีย คุ้นเคยเป็นอย่างดี ยิ่งในช่วงที่ทุเรียน "เบตงพวงมณี" เมืองทั้งเมืองเต็มไปด้วยชาวมาเลเชีย ที่หลั่งไหลมาชิมรสชาติทุเรียนเบตง ที่พวกเขาหลงไหล

            ถึงคราวนักท่องเที่ยวไทย ไปชมทะเลหมอกกันแล้ว