Hot Stories
Home   /   Hot Stories  /   เสี่ยร้านทองร้องศาลปกครองถูกยึดทรัพย์อ้างพันแก๊งค์ป้วนใต้

เจ้าของร้านทองร้องศาลปกครองหลังถูกยึดทรัพย์อ้างพันแก๊งค์ป้วนใต้  

              สำนักข่าวอะลามี่: เจ้าของร้านทองสุไหงปาดี นราธิวาส เตรียมฟ้องศาลปกครอง หลัง ปปง.ยึดทรัพย์ไม่เป็นธรรม ฐานเอี่ยวโจรใต้ เผยชีวิตครอบครัวลำบากทุกวันนี้ต้องหนีไปซ่อนตัวที่หาดใหญ่ กลัวถูกไข้โป้ง

                เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 2 ส.ค. 55 นายสุริยันต์ พงศ์มานุวุฒิ เจ้าของร้านทองภู่สุวรรณ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส และ นายวินิจ นราธิปภัทร ทนายความ ได้ประสานขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน เพื่อมาชี้แจงกรณีที่ นายสุริยันต์ เจ้าของร้านทอง ได้ถูกเจ้าหน้าที่ ปปง. ตำรวจและทหาร ใช้กฎอัยการศึกบุกตรวจค้นร้านทอง และ ได้ทำการยึดทองรูปพรรณ ซึ่งมีมูลค่า ประมาณ 16 ล้านบาท และเงินสดอีก จำนวน 570,000 บาท 

                โดยแจ้งข้อหาฟองเงินกับนายสุริยันต์ เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 55 โดยเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่าทองรูปพรรณและเงินสด เป็นทรัพย์สินที่นายสุริยันต์ ได้มาจากการแอบรับแลกเงิน จากกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งเงินในส่วนนี้กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด ได้นำไปใช้สนับสนุนในการก่อเหตุการณ์ร้ายในพื้นที่ จ.ชายแดนภาคใต้ ซึ่งเวลาผ่านเนินนานมาร่วม 4 เดือนแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องไม่ได้มีการออกคำสั่งให้ทำการยึดหรืออายัดทรัพย์สินดังกล่าว ภายใน 7 วันแต่อย่างใด

               จนกระทั่งวันที่ 24 ก.ค. 55 ทางคณะกรรมการธุรกรรม มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินดังกล่าว ซึ่งมีประเด็นที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย ซึ่งจะต้องตรวจสอบให้ทราบแน่ชัดว่า นายสุริยันต์  เกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐานหรือไม่ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้ คณะกรรมการธุรกรรม มีการออกคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินดังกล่าวเมื่อเวลาล่วงเลยไปถึง 135 วัน ซึ่งกฎหมายได้กำหนดไว้ในระยะเวลา 90 วันเท่านั้น ซึ่งของกลางทั้งหมดขณะนี้ถูกเก็บรักษาไว้ที่ สภ.สุไหงปาดี

                โดย นายสุริยันต์ เจ้าของร้านทอง เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวนี้เริ่มแรกเมื่อต้นเดือน มิ.ย. 54 เจ้าหน้าที่ทหารได้จับกุมตัว นายยุสรี เปาะดาโอะ ซึ่งเป็นเอเย่นต์ยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ อ.ตากใบ และขยายผลไปสู่การจับกุมตัว นางปาตีเมาะ ที่นำเงินสกุลริงกิต ที่ นายยุสรี ขายยาเสพติดได้ไปแลกเงินที่ร้านทองของ นายสุริยันต์  จนกระทั่งวันที่ 18 ก.พ.55 เจ้าหน้าที่ ปปส. ดี.เอส.ไอ. ทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจค้นที่ร้านของนายสุริยันต์ และ เจ้าหน้าที่ได้กัน นายสุริยันต์ ไว้เป็นพยาน ยืนยันชี้ภาพถ่ายของบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อเชื่อมโยงให้เห็นถึงกระบวนการแลกเปลี่ยนเงิน และ ทาง สภ.สุไหงปาดี ได้ออกคำสั่งคุ้มครองพยาน เกรงนายสุริยันต์ และครอบครัวจะได้รับอันตราย

                นายสุริยันต์ เจ้าของร้านทองยังเปิดเผยอีกด้วยว่า จากการให้ปากคำในฐานะพยานในครั้งนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้นำข้อมูลการให้การของตน มาจับกุมตนซึ่งเป็นการหลอกลวง ทำให้ พ.อ.จตุพร กลัมพสุต หัวหน้าชุดเฉพาะกิจป้องกันภัยแทรกซ้อน กอ.รมน.ภาค 4 ที่เข้าร่วมจับกุมได้ขอถอนตัว และ พ.ต.อ.อิสเรศ สงวนนาม พงส.สบ.4 กลุ่มงานสืบสวน ภจว.นราธิวาส ซึ่งเป็นคนที่กันนายสุริยันต์ ไว้เป็นพยาน มีความเห็นขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จะจับกุม และแจ้งข้อกล่าวหากับนายสุริยันต์ มันไม่ถูกต้อง จึงได้ถอนตัวในคดีดังกล่าวเป็นรายที่ 2 ต่อจาก พ.อ.จตุพร กลัมพสุต

               " ตนเป็นพ่อค้าทำมาหากินสุจริตมานานเท่าชีวิต ต้องมาพบกับความไม่เป็นธรรมจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ทุกวันนี้ อาศัยอยู่ด้วยความหวาดระแวง ลำพังเหตุการณ์ความไม่สงบก็ลำบากอยู่แล้ว แต่ต้องมาพบกับการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐ เอาตัวผมมาเชื่อมโยงทางคดี ผมอันตรายขนาดไหน มันเป็นเรื่องธรรมดาของเมืองชายแดนที่ร้านค้าทั่วไปเขาเปิดรับแลกเงินตรากันทั้งนั้น มันเป็นการให้บริการแก่ลูกค้าซึ่งผมยอมรับผิดที่ไม่มีใบอนุญาต แต่เอาผมมาเชื่อมโยงแบบนี้เหมือนตายทั้งเป็น อยู่ได้ เพราะนึกถึงพระบารมีของในหลวงและพระราชินี"นายสุริยันต์ กล่าว

                ด้านนายวินิจ นราธิปภัทร ทนายความ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวทั้งหมดนี้ ตนจะขอพึ่งศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับ นายสุริยันต์ ที่ทุกวันนี้เขาต้องอพยพครอบครัวไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เกรงจะได้รับอันตรายจากเรื่องที่เกิดขึ้น ที่ต้องหนีขบวนการค้ายาเสพติด แล้วต้องได้รับหวาดกลัวกับเจ้าหน้าที่รัฐ