เกาะติดชีวิต 200ผู้แสวงบุญบนภาระกิจของศอ.บต.

โดย อรุณ วิทยานนท์ ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจ รายงานจาก นครเมกกะฮ์ ซาอุดิอารเบีย

                สำนักข่าวอะลามี่:  เกาะติดชีวิต 200 ผู้แสวงบุญ บนภาระกิจของศอ.บต.ในโครงการคนดีมีคุณธรรมฯ การเดินทางราบรื่น -สุขสบายดี แถมได้รับการดูแลอย่างดี นับเป็นปีแรกที่ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้แสวงบุญไทยในโครงการนี้

 (โรงแรมฮิลตัน แอนด์ ทาวเวอร์ มักกะห์ สถานที่พักของผู้แสวงบุญโครงการของศอ.บต.)

                นครมักกะห์ ประเทศซาอุดีอาราเบีย (10 ตุลาคม 2555)  : หลังจากคณะผู้แสวงบุญหรือฮุจญาต ของศอ.บต. จำนวน 200 คน ตามโครงการส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปประกอบ พิธีฮัจญ์ เทศกาลฮัจญ์ประจำปี 2555 โดยได้เดินทางเมื่อวันที่ 19  กันยายน ที่ผ่านมา ด้วยสายการบิน ของการบินไทย เที่ยวบินพิเศษแบบเหมาลำ จากสนามบินนานาชาติ หาดใหญ่ เส้นทางหาดใหญ่-มัสกัส-เจดดาห์       

(รถบัสที่ทางผู้ประกอบการจัดมาเพื่อให้บริการขนส่งผู้แสวงบุญ)

                 เป็นโครงการของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. โดย พ.ต.อ. ทวี  สอดส่อง ในฐานะเลขาธิการ มีวัตถุประสงค์ เพื่อที่จะเยี่ยวยาครอบครัวผู้สูญเสียชีวิต และผู้ที่ได้รับ ผลกระทบจากเหตูการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้และส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมที่เสียสละเพื่อ สังคม      มีห้างหุ้นส่วนจำกัด อิบนูอัฟฟาน เป็นผู้ประกอบการที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการ       

                 รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนส่งเสริมการประกอบพิธีฮัจย์ของพี่น้องมุสลิมมาโดยตลอด โดยเฉพาะ ศอ.บต.นั้นให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยยังได้แต่งตั้งคณะกรรมการและที่ปรึกษาโครงการฯ เพื่อทำหน้าที่อำนวยความสะดวก และได้ให้ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด หรือ ตัวแทน กรรมการอิสลามประจำจังหวัดเดินทางมาดูแลถามทุกข์สุข และอำนวยความสะดวกให้กับผู้แสวงบุญของ แต่ละจังหวัดที่เดินทางประกอบพิธีฮัจย์ จำนวน 13,000 คน

                ทันทีที่ฮุจญาตในโครงการฯ เดินทางมาถึงที่เมืองมาดีนะห์ ได้เข้าพักที่โรงแรมรอยัล อันดาลุซ ซึ่งเป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ใกล้ที่สุดกับมัสยิดนะบะวีย์ ประมาณ 20 เมตร ด้วยความพยายามของผู้ประกอบการที่จะจัดที่พักและอาหารการกิน ตลอดจนการขนส่งระหว่างเมืองตลอดระยะเวลา 8 วัน ที่พักอยู่ใน เมืองมาดีนะห์

               และในช่วงการเยี่ยมเยียนสถานที่ประวัติศาสตร์ในเมืองมาดีนะห์ ผู้ประกอบการได้ใช้รถบัส ของบริษัท SATCO ซึ่งไม่เคยมีผู้แสวงบุญชาวไทยเคยใช้มาก่อน และเป็นบริษัทชั้นนำด้านการขนส่งของ ประเทศซาอุดิอารเบียโดยใช้รถบัสยี่ห้อ เมอร์ซีดีสเบนซ์ รุ่นปี 2012  จำนวน 5 คัน  แต่ก็มีบางส่วนที่จะ ต้องแก้ไขตามสถานการณ์อันเนื่องมาจากข้อจำกัดของสถานที่ อาทิ การบริการด้านอาหารบุฟเฟ่ของผู้รับ เหมาประกอบอาหารซึ่งเป็นผู้ประกอบการชาวไทยที่พำนักอยู่ในเมืองมาดีนะห์และเป็นปัญหาหลักเกือบ ทุกปี เนื่องจากสถานที่สถานที่รับประทานอาหารและสถานที่จัดประชุของโรงแรมไม่เพียงพอ  แต่ได้รับ การแก้ไขในเวลาต่อมา

               เมื่อได้เวลาที่ฮุจญาต จะต้องเดินทางจากเมืองมาดีนะห์ไปยังเมืองมักกะห์ ซึ่งเป็นผู้แสวงบุญจะ ต้องปฏิบัติตนในชุดครองอิหรอม เนื่องจากจะต้องประกอบพิธีฮัจย์แบบตะมัวตวะอ์ ซึ่งต้องประกอบ พิธีอุมเราะห์ก่อนพิธีฮัจญ์

              การเดินทางในครั้งนี้ ทางผู้ประกอบการได้จัดการขนส่งผู้แสวงบุญโครง การของศอ.บต.จากเมืองมาดีนะห์ไปยังเมืองมักกะห์ โดยใช้รถบัสของบริษัท SATCO เช่นกัน เพื่ออำนวยความสะดวกสบายอย่างที่สุดแก่ แขกของอัลลอฮ์ และยังได้ขนส่งสัมภาระกระเป๋าด้วย รถบรรทุก 6 ล้อไปก่อน เมื่อมาถึงที่เมืองมักกะห์ ได้มีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ (กงสุลฝ่ายกิจการฮัจย์) เจ้าหน้าที่คณะผู้แทนฮัจญ์ไทย หรือ เบียะซะห์  หัวหน้ามักตับ และน้องๆ นักศึกษาไทย ที่กำลังศึกษาในเมืองมักกะห์ จำนวน 10 ท่านให้การต้อนรับ

            ก่อนที่ผู้แสวงบุญทุกท่านได้เช็คอินท์ เข้าพักที่โรงแรมฮิลตัน แอนด์ ทาวเวอร์ เมืองมักกะห์ เป็นโรงแรม 5 ดาว ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ที่สุดในบรรดา ที่พักที่มีอยู่ในปัจจุบันกับมัสยิดหะรอมอันเป็นสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจหลัก มีระยะห่างประมาณ 20 เมตรเท่านั้น และ สามารถเดินเข้ามัสยิดและลานตอวาฟ ได้อย่างสะดวก

           ส่วนสถานที่รับประทานอาหารนั้น ทางโรงแรม ได้จัดไว้ที่ภัตตาคาร อัตติลาละฮฺ ชั้น 3 ติดห้างบินดาวูด ซึ่งเป็นที่รู้จักของผู้แสวงบุญชาวไทย เป็นอย่างดีเมื่อมาช๊อปปิ้ง และในปีนี้นับว่าเป็นเกียรติของผู้แสวงบุญชาวไทยที่ได้ยกระดับความเป็นอยู่ เทียบเท่านานาชาติ ซึ่งได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้มีจำนวน 420 คน เป็นปีแรกในประวัติศาสตร์การจัด บริการกิจการฮัจย์ไทยที่มีผู้พักในโรงแรมนี้มากที่สุด

            โดยเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา ท่านกงสุลใหญ่ประเทศไทย ประจำเมืองเจดดาห์ นายชาลี สกลวารี ได้เรียนเชิญตัวแทนคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์จังหวัดชายแดนภาคใต้ของศอ.บต. และ ผู้ติดตาม ฝ่ายต่างๆ เพื่อเลี้ยงรับรองอาหารและสอบถามความทุกข์สุขของผู้แสวงบุญชาวไทยในโครงการของ ศอ.บต. และร่วมปรึกษาหารือแนวทางในการยกระดับกิจการฮัจย์ไทย ณ ทำเนียบกงสุลใหญ่ เมืองเจดาห์

            ต่อมาวันที่ 8 ตุลาคม นายชาลี  สกลวารี กงสุลใหญ่ประเทศไทย และคณะได้เดินทางมาร่วมรับ ประทานอาหารที่ห้องอาหาร ภัตตาคาร อัตติลาละฮฺ โรงแรมฮิลตัน แอนด์ ทาวเวอร์ มีนายหะยีแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการฯและคณะ ให้การต้อนรับ ก่อนรับประทานอาหารท่านกงศุลใหญ่ได้ให้ โอวาท และ พบปะกับผู้แสวงบุญในโครงการของศอ.บต. และผู้แสวงบุญชาวไทย ที่พักอยู่ในโรงแรมฮิลตัน

          โดยท่าน กงสุลใหญ่ประเทศไทย ประจำเมืองเจดดาห์ กล่าวแสดงออกถึงความดีใจ เมื่อได้เห็นผู้แสวงบุญชาวไทยที่ได้มีการพัฒนายกระดับความเป็นอยู่ในด้าน ที่พักอาศัยเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว รับประทานอาหารในภัตตาคารแบบบุฟเฟ่ ที่สะอาดและอร่อย เทียบเท่านานาประเทศ ซึ่งจะเป็นเกียรติภูมิของประเทศไทยที่ได้พัฒนากิจการฮัจย์มาในระดับหนึ่ง