Hot Stories
Home   /   Hot Stories  /    ไอแบงก์เดินสายติวความรู้การเงินอิสลามกับผู้นำ

 ไอแบงก์เดินสายติวความรู้การเงินอิสลามกับผู้นำ

               สำนักข่าวอะลามี่: ไอแบงค์เดินสายติวเข้มสร้างความรู้ผู้นำศาสนาอิสลาม ตามโครงการ “ไอแบงค์พบผู้นำศาสนาทั่วประเทศ” ตั้งเป้าในปี 2556 จะเปิดเพิ่มอีกประมาณ 20-24 สาขา เพื่อให้สามารถบริการกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง

 

            เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 10 พฤศจิกายน  2555 ที่ห้องประชุมโรงแรมเดอะ รอยัล พาราไดส์ รีสอร์ท แอนด์สปา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายบัณฑิต โสตถิผลาฤทธิ์ ประธานกรรมการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงค์) เป็นประธานเปิดสัมมนา โครงการ “ไอแบงค์พบผู้นำศาสนาทั่วประเทศ รุ่นที่ 7” ในหัวข้อเรื่อง “ธนาคารอิสลามกับการตอบสนองความจำเป็นทางด้านการเงินของสังคมมุสลิม โดยมี กรรมการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย, คณะที่ปรึกษาด้านชะรีอะห์ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย, ประธานและคณะกรรมการประจำจังหวัด อิหม่าม ผู้แทนมัสยิดในพื้นที่ จ.ภูเก็ต กระบี่ ระนองและพังงา รวมถึงผู้แทนองค์กรมุสลิม เข้าร่วม โอกาสนี้ยังได้มีการบรรยาย เรื่อง ภาพรวมของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยกับบทบาทการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศและสังคมมุสลิม จุดกำเนิดและความสำคัญของระบบธนาคารอิสลามในประเทศไทย หลักชะรีอะฮ์ที่ใช้ในการดำเนินธุรกรรมของธนาคาร และการเสวนาในหัวข้อ ธนาคารอิสลาม คือ ทางออกสำหรับมุสลิมและเป็นทางเลือกสำหรับทุกศาสนิกด้วย

             หม่อมราชวงศ์ศศิพฤนท์ จันทรทัต รักษาการกรรมการผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เนื่องด้วยธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ.2545 มีวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนองความจำเป็นทางด้านการเงินที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามให้แก่สังคมมุสลิมไทย และส่งเสริมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ มุ่งเน้นการให้บริการตั้งแต่ระดับจุลภาคถึงระดับมหภาค ในขณะที่การดำเนินงานในระบบการเงินการธนาคารอิสลาม (Islamic Banking and Finance) เป็นเรื่องใหม่สำหรับมุสลิมและประชาชนทั่วไปในประเทศไทย ทำให้ยังขาดความเข้าใจการดำเนินธุรกิจที่ถูกต้องตามหลักชะรีอะฮ์ของธนาคาร

             ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยได้เล็งเห็นความสำคัญของเรื่องดังกล่าวข่างต้น จึงได้จัดสัมมนาไอแบงค์พบผู้นำศาสนาทั่วประเทศ ในทุกๆ ภูมิภาค หัวข้อเรื่อง ธนาคารอิสลามกับการตอบสนองความจำเป็นทางด้านการเงินของสังคมมุสลิม เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน ตลอดจนเป็นรากฐานในการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้นำมุสลิมกับธนาคารอย่างยั่งยืนต่อไป หม่อมราชวงศ์ศศิพฤนท์กล่าว

             ขณะที่ นายบัณฑิต โสตถิผลาฤทธิ์ ประธานกรรมการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า โครงการดังกล่าวกำหนดจัดขึ้นทั่วประเทศจำนวน 9 ครั้ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 ซึ่งมาจัดที่จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง รวมทั้งการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างหน่วยงานต่างๆ กับทางธนาคารฯ ซึ่งปัจจุบันมีสาขาทั่วประเทศจำนวน 105 สาขา จากเดิมก่อนหน้านี้มีจำนวน 28 สาขา และในปี 2556 มีเป้าหมายที่จะเปิดเพิ่มอีกประมาณ 20-24 สาขา เพื่อให้สามารถบริการกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง พร้อมยืนยันว่า ธนาคารอิสลามฯ ไม่ได้ให้บริการเฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามเท่านั้น แต่เราพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าทุกศาสนา