The Alami Report
Home   /   The Alami Report  /   “ลังกาวี” จุดเด่น จุดขายที่ยั่งยืน

มองรอบทิศ  คิดรอบด้าน 
โดย : พรพญา 


 “ลัง
กาวี” จุดเด่น จุดขายที่ยั่งยืน  

             สำนักข่าวอะลามี่ :  “ลังกาวี” เกาะของมาเลเซียแห่งนี้ คนไทยคงรู้จักดี ในฐานะเกาะต้องคำสาป ของ “นางมัสสุหรี” ที่ลูกหลานอพยพมาอยู่มาอยู่ที่เกาะภูเก็ตของบ้านเรา จนกลายเป็นเจ้าหญิงโด่งดังเมื่อ 10 กว่าปีก่อน แต่นอกจากคำสาปแล้ว “ลังกาวี” มีดีมากกว่านั้น

                “ลังกาวี” ทางการมาเลย์ได้ให้ความหมายว่า “นกอินทรี” และสร้างรูปนกอินทรีขนาดใหญ่ไว้เป็นสัญลักษณ์ของเกาะ แต่นักประวัติศาสตร์บางคน ได้ถอดรากศัพท์คำว่า “ลังกะ”ว่า มาจาก”ลึงค” หรือศิวลึงก์ ของชาวฮินดู อันเป็นรากความเชื่อเดิมของชาวมาเลย์ก่อนที่อิสลามจะเข้ามา  แต่จะแปลว่าอย่างไรก็ตาม “ลังกาวี” เป็นเกาะที่นับว่า “โดดเด่น” แม้ว่า ชายหาดจะไม่สวยงามเหมือนเกาะของไทย

                แม้จะสร้างจุดขายจากตำนานปรัมปราว่าด้วยพระนางเลือดขาว ที่สาปให้เกาะแห่งนี้ไม่เจริญถึง 7 ชั่วคน แต่ในความเป็นจริงเกาะแห่งนี้เจริญมาก่อนหน้านี้แล้ว คนไทยจากจังหวัดสตูลและใกล้เคียงข้ามไปขนสินค้าจากลังกาวีมาเนิ่นนาน ตั้งแต่น้ำมันปาล์มจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า นำมาใช้นำมาขายกันเป็นล่ำเป็นสัน สะท้อนถึงความเจริญที่มีมาก่อน การนำคำสาปพระนางเลือดขาวมาเป็นจุดขาย เป็นเพียงการสร้างสีสันทางการท่องเที่ยวเท่านั้น ซึ่งก็ได้ผล สามารถดึงดูดคนไทยไปเที่ยวจำนวนมากในแต่ละปี

                การให้ความสำคัญกับโบราณวัตถุ โบราณสถาน วัฒนธรรมประเพณีในหลากมิติ นับเป็นจุดเด่นของการท่องเที่ยวมาเลเซีย ประเทศนี้ เคยใช้คำว่า “นี่คือเอเชีย” เป็นจุดขาย โดยการให้ความสำคัญกับคนทุกกลุ่มในประเทศ จีน อินเดีย และมุสลิม ในการออกไปโรดโชว์ อย่างการมาเปิดบูธที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ททท.มาเลย์จะขึ้นการแสดงทั้งของมุสลิม จีน และอินเดียมาแสดงอย่างครบครัน แตกต่างจากททท.ของไทย ที่ชูจุดขายแต่ความเป็น แต่กับชนชาติอื่นที่ร่วมสร้างชาติกันมา ให้ความสำคัญน้อยมาก การออกโรดโชว์ จึงมีเพียงรำไทย ไม่มีลิเกฮูลู 

                ที่ ”ลังกาวี” มีการรักษาบ้านเรือนเก่าๆ ไว้อย่างดี จะใช่ของจริงหรือเปล่าไม่รู้ แต่นักท่องเที่ยวเข้าใจว่า นั่นเป็นบ้านของนาง ”มัสสุหรี” เมื่อ 200 ปีก่อน มีพิพิธภัณฑ์ มีหลุมฝังศพ ที่ไม่น่าเชื่อว่า 200 ปีมาแล้ว สภาพยังสมบูรณ์ กลายเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปลังกาวี จากเดิมที่ไปซื้อสินค้าหนีภาษีมาเป็นการเที่ยวชมบ้านพระนางมัสสุหรี ซื้อของที่ระลึก ชมการแสดงท้องถิ่น ที่สืบทอดมาจากอดีต 

                ในขณะที่ “ลังกาวี” มีสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่ อย่างจุดชมวิว ที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นกระเช้าไปปะทะหมอกยังยอดเขาสูงเสียดฟ้า เป็นจุดดูดนักท่องเที่ยวปีละเป็นล้าน ๆ คน

                อีกด้านหนึ่ง “ลังกาวี” ก็มีชายหาดที่นับว่า สวยงามในระดับหนึ่ง ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากตะวันตกมาปีละมากๆ เพียงแต่ด้วยกฎระเบียบที่เข้มงวด การดื่มกินที่ไม่เสรีอย่างเมืองไทย เป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่ง

                แม้จะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่มาเลย์ สามารถสร้างจุดขายอย่างอื่น จนกลายเป็นความโดดเด่นจนเป็นที่ขึ้นชื่อของ “ลังกาวี” ทำให้เกาะแห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้นำเงินมายังเกาะแห่งนี้จำนวนมหาศาลในแต่ละปี   

  ล้อมกรอบ

                การเดินทางไปเกาะลังกาวี จากประเทศไทย เดินทางไปได้ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางจากด่านตำมะลัง(ไปทางเรือ) จังหวัดสตูล ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 1.30 น. อีกเส้นทางหนึ่ง เส้นทางด่านนอก(ไปทางรถยนต์) อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ใช้เวลาในการเดินทางนานกว่าไม่มากนัก

ตีพิมพ์ครั้งแรก :นิตยสาร ดิ อะลามี่ ฉบับเดือนกันยายน 2556