Hot Stories
Home   /   Hot Stories  /   มาเลย์กว่า2หมื่นคนชุมนุมประท้วงรัฐบาล

ชาวมาเลย์กว่า2หมื่นคนชุมนุมในกัวลาลัมเปอร์ประท้วงรัฐบาล

             สำนักข่าวอะลามี่ : ชาวมาเลเซียกว่า25,000คนรวมตัวกันที่กรุงกัวลาลัมเปอร์เรียกร้องให้ปฏิรูปการเลือกตั้ง ด้านตำรวจสลายการชุมนุมด้วยวิธียิงแก๊สน้ำตา-ใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงยิง

                เกิดเหตุกลุ่มผู้ชุมนุมออกมารวมตัวกันในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยเหตุการณ์เริ่มทวีความรุนแรงขึ้น หลังผู้ประท้วงบางส่วนพยายามพังกำแพงกั้น เพื่อเข้าไปในจัตุรัสเมอเดก้า ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตัดสินใจยิงแก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่ผู้ชุมนุม ส่งผลให้ผู้ประท้วงหลายสิบคนได้รับบาดเจ็บ และอีกกว่า 220 คนถูกจับกุมตัว เจ้าหน้าที่อ้างว่ากลุ่มผู้ประท้วงได้ขว้างปาขวด และก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้มีเจ้าหน้าที่กว่า 20 นายได้รับบาดเจ็บและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล 2 นาย

             โดยผู้ประท้วงเหล่านี้ออกมารวมตัวกันเนื่องจาก ไม่พอใจที่รัฐบาลผสมซึ่งปกครองมาเลเซียมานานกว่า 50 ปีจะได้เปรียบอย่างไม่เป็นธรรมในการเลือกตั้งทั่วไปที่คาดว่าจะมีขึ้นก่อนกำหนดราวเดือนมิถุนายนนี้ หลังจากกลุ่มเคลื่อนไหวกล่าวหาคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าลำเอียงและมีการโกงรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้ชุมนุมยังต้องการให้ยืดเวลาหาเสียงเลือกตั้งออกไป รวมทั้งสร้างหลักประกันว่าชาวมาเลเซียในต่างประเทศจะได้ใช้สิทธิเลือกตั้ง คณะสังเกตการณ์ต่างชาติจะได้เข้ามาสังเกตการณ์และผู้สมัครจากทุกพรรคจะได้เข้าถึงสื่อของรัฐ

               ขณะที่ นาย อานิฟาห์ อานัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ กล่าวยอมรับว่าการชุมนุมเป็นปัญหาใหญ่ และได้พยายามควบคุมพื้นที่ชุมนุมให้อยู่ในบริเวณจำกัด และจะพยายามที่จะจัดการเลือกตั้งในครั้งต่อไปอย่างเป็นธรรมที่สุด  ขณะที่ โฆษกตำรวจมาเลเซีย คาดว่า จำนวนผู้ประท้วงมีประมาณ 25,000 คน แต่หลายกระแสข่าวรายงานว่า มีมากกว่านั้นหลายเท่า โดยเว็บไซต์ข่าวอิสระมาเลเซียกินี  รายงานว่า ผู้ประท้วงมีมากถึง 1 แสนคน ขณะที่หนังสือพิมพ์เดอะซัน คาดการณ์ว่า อาจมีราว 8 หมื่นคน

             ก่อนหน้านี้ได้มีการรวมตัวขององค์กรเอกชนกว่า 80 องค์กรเพื่อเดินขบวนประท้วงเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมมาแล้วในวันที่ 9 กรกฎาคมปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการเดินขบวนประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา มีผู้ถูกจับกุมตัวไปกว่า1,600 คน

 

 

ผู้สื่อข่าว :     ภัทรา อภิญญาวาท

ที่มา:http://www.springnewstv.tv/news/foreign/13760.html