Hot Stories
Home   /   Hot Stories  /   ใต้ยังป่วนไม่เลิก"เผาเสาสัณญาณมือถือ-บึ้มจนท. "

ใต้ยังป่วนไม่เลิก"เผาเสาสัณญาณมือถือ-บึ้มจนท. "

            สำนักข่าวอะลามี่: สถานการณ์ชายแดนใต้วันนี้(15ส.ค.)พบว่ายังมีเหตุความรุนแรงหลายครั้งในพื้นที่ 3 จังหวัดหลยจุด ทั้งลอบเผาเสาสัญญาณโทรศัพท์ ลอบวางระเบิกเจ้าหน้าที่ และชาวบ้านถูกยิงเสียชีวิต

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่ายังเกิดเหตุรุนแรงหลายจุดใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยผู้สื่อข่าวปัตตานี รายงานวันที่ 15 สิงหาคม เวลา เวลา 20.45 น. มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ได้ใช้น้ำมันเบนซิน ราด และจุดไฟเผาสาโทรศัพท์เครื่อข่าย เอ ไอ เอส ในพื้นที่ ม. 4 บ.ดอนยาง ต.บางเขา อ.หนองจิก  ในพื้นที่หมู่ม. 1 บ.บางไร่ ต. บางเขา  อ.หนองจิก  และในพื้นที่ที่ ม.7 บ.โคกม่วง ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

             พ.ต.ท.ชนะศักดิ์ อินท์ทองแก้ว สารวัตรสืบสวน สภ.หนองจิก จังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยกำลังตำรวจ ทหาร พร้อมประสานรถดับเพลิงของเทศบาลหนองจิก และใกล้เคียงเข้าสกัดเพลิง เพื่อไม่ให้ลุกลามไปสถานที่อื่น  ปรากฏว่า ไฟได้ลามสายไฟขึ้นไปข้างบนเสา สร้างความเสียหายเจ้าหน้าที่พยายามสกัดเพลิง ประมาณ 30  นาที สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ 

             เบื้องต้น พบว่าทำให้สายไฟเสาเครื่อข่ายถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายและใช้การไม่ได้ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบในวันนี้ เบื้องต้นเชื่อว่าเป้นการาสร้างสถานการณ์ของแนวร่วมในพื้นที่

โจรใต้วางระเบิดทหารชุด รปภ.ครูที่ศรีสาคร

               ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวอะลามี่ รายงานจากจังหวัดนราธิวาส ว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน (15 ส.ค. 55)  ร.ต.ท.ฉัตรชัย ใจไว ร้อยเวร สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารชุด รปภ.ครู สังกัด ร้อย ร.3111 ฉก.นราธิวาส 37 ที่เสาไฟฟ้าเชิงสะพานบ้านลูดโบะบาตู ม.4 ต.ตะมะยูง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.โกวิทย์ รัตนโชติ ผกก.สภ.ศรีสาคร ร.ต.ท.นัฐวิทย์ บำเพ็ญศรี รอง หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ร.ต.ต.แชน วรงคไพสิฐ หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

                พบที่บริเวณโคนเสาไฟฟ้ามีหลุมลึก 1 ฟุต กว้าง 2 ฟุต และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องแบบโคโม ที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็กหนัก 10 ก.ก.จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน และมีเศษลูกถ้วยที่ใช้สำหรับยึดสายไฟฟ้าอยู่บนเสาได้รับความเสียหายตกมากองอยู่ที่พื้นถนน เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

                สอบสวน ร.ท.วัชพล ชื่นชม หัวหน้าชุดทราบว่า หลังจากโรงเรียนบ้านลูโบะบาตูเลิก ตนจึงได้นำกำลังรวม 8 นาย เดินลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางให้กับคณะครู เพื่อเดินทางกลับบ้านพักถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ ได้ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปวางไว้ใต้บริเวณโคนเสาไฟฟ้าริมทาง จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว โชคดีที่ขอบถนนได้บดบังอนุภาพทำลายล้างของระเบิด จึงทำให้ตนและผู้ใต้บังคับบัญชารอดตายไปได้อย่างหวุดหวิด แต่สะเก็ดระเบิดได้พุ่งขึ้นท้องฟ้าไปสร้างความเสียหายต่อลูกถ้วยที่ใช้สำหรับยึดสายไฟฟ้าบนเสาได้รับความเสียหาย

ยิงชาวบ้านดับที่ อ.รามัน จ.ยะลา

              ส่วนที่จังหวัดยะลา เมื่อเวลา 16.45 น.(15 ส.ค.) พ.ต.ท.เตียน ทองสมสี พงส.(สบ.3)สภ.รามัน จ.ยะลา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า มีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ริมถนนสายรามัน – ท่าธง บริเวณหัวโค้งใกล้สวนทุเรียน บ้านสะโต หมู่ที่ 5 ต.อาซ่อง หลังได้รับแจ้งจึงรีบเดินทางไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อุทัย ทิพย์เสภา ผกก.พ.ต.ท.อำไพ ชุมช่วย รอง ผกก.ป.นายอวยชัย จุฬาสิริวงศ์ ปลัดป้องกันอำเภอรามัน สนธิกำลังทหาร ฉก.12 อ.รามัน พร้อมฝ่ายปกครองรุดไปสอบสวน

              ที่เกิดเหตุบริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพ นายการิม ศรีชัย อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97/ 1 หมู่ที่ 5 ต.อาซ่อง อ.รามัน ถูกยิงกับอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดที่ศีรษะ ลำคอ และ กลางหลังรวม 3 นัด นอนตายจมกองเลือดรถใกล้ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110 ซีซี สีเทา หมายเลขทะเบียน กลจ.235 ยะลา ที่ล้มลงอยู่ โดยข้างลำตัวพบซองปืนพกสั้นขนาด .38 แต่ไม่พบอาวุธปืนใด ๆ มีถุงแกงและน้ำแข็งหลอดแตกกระจายเกลื่อนถนน

               จากการสอบสวน นางอาซีซ๊ะ จะสิติ ภรรยา ผู้ตาย ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายการิม ได้ขับขี่ จยย.คันดังกล่าวเดินทางไปซื้อกับข้าวในหมู่บ้าน เพื่อเตรียมละศีลอด ช่วงเดือนรอมฎอน ในตอนเย็น ขณะเดินทางกลับบ้านพัก เมื่อขับรถ จยย. มาถึงที่เกิดเหตุ มีคนร้าย จำนวน 2 คนขับขี่ จยย.ไล่ติดตามจากปากทาง ขับแซงขึ้นไปมือปืนที่ซ้อนท้ายได้ชักอาวุธปืนออกจากเสื้อคลุมออกมายิงใส่นาย การิมติดต่อกันหลายนัด นายการิม ถูกกระสุนปืนจนรถ จยย.ล้มลง คนร้ายจอดรถ จยย.ลงไปจ่อยิงซ้ำที่ศีรษะอีกนัดจนแน่ใจว่าไม่รอดแล้ว

               หลังจากนั้นจึงได้ชิงเอาอาวุธปืนพกสั้น ขนาด .38 ของนายการิม ขึ้นรถจยย.ขับหลบหนีไป อย่างรวดเร็ว